Perinheri (I)

Perinheri (I)
Perinheri (I)NamePerinheri (I)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, Perinheri
RarityRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionหนังสือเล่มนี้ยังมีชื่อว่า "Hleobranto Innamorato" (Hleobrant ในห้วงรัก) ผู้เขียนฉบับแรกอ้างว่า ตัวเองได้ดัดแปลงเรื่องราวมาจากเรื่องราวในตำนานที่รู้จักกันดีใน Khaenri'ah แต่ปัจจุบันไม่มีคนที่จะสามารถยืนยันข้อเท็จจริงได้หลงเหลืออยู่ในโลก ปัจจุบันมันกลายเป็นผลงานที่ได้จากการร่วมกันสร้างสรรค์ของหลายชั่วอายุคน

Table of Content
Item Story
Obtained From
Gallery

Item Story

นี่เป็นเรื่องราวที่เก่าแก่มากแล้ว เล่าลือกันว่า ตอนนั้นสัตว์ปีกกับนกป่ายังไม่ถูกแยกออกจากกัน สิ่งที่ให้ความสว่างแก่อาณาจักรใต้ดินในตอนนั้นคือจันทราแดง (Crimson Moon) ไม่ใช่สุริยันดำ (Eclipse) ที่มีมาในภายหลัง
เนื่องด้วยตำแหน่งที่พิเศษของอาณาจักร ทำให้มีสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกโลกเล็ดลอดเข้ามาอยู่เสมอ ยุทโธปกรณ์ของอาณาจักรสามารถทำลายหายนะที่เกิดขึ้นจากสิ่งเหล่านี้ได้ แต่จะจัดการกับเหตุการณ์อื่นอย่างเช่น เด็กที่มาจากโลกที่ถูกทำลายล้างได้อย่างไรล่ะ?
มีหนึ่งในนักปราชญ์กล่าวกับราชาว่า: "ท่านผู้นำที่สูงศักดิ์ ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของต่างโลกจากเด็กคนหนึ่ง: เคยมีชาวทะเลเชื่อว่าเทพมาจากมหาสมุทร ทุกครั้งที่เห็นผู้ประสบภัยทางทะเลที่ระเหเร่ร่อน พวกเขาจะต้อนรับด้วยความเคารพสูงสุด เพียงเพราะคิดว่าเทพจะปลอมตัวเป็นผู้ประสบภัยในการออกสำรวจโลกมนุษย์"
ราชากล่าวว่า: "เราไม่เข้าใจ แต่ทำตามที่เจ้าต้องการเถอะ"
(แน่นอนว่า ไม่มีมหาสมุทรในความหมายดั้งเดิมของอาณาจักร ผู้ก่อตั้งอาณาจักรคนแรกนั้น เคยเห็นภาพของภูเขาที่พร่ามัวภายใต้แสงจ้าของดวงอาทิตย์ และแสงสะท้อนของดวงจันทร์ ที่ส่องกระทบบนเกลียวคลื่นของผืนทะเลราวกับไข่มุกมากมาย ในยุคที่เรื่องราวเกิดขึ้นนั้น มีเพียงคนนอกและคนไม่กี่คนที่ออกจากอาณาจักรไปปฏิบัติหน้าที่ราชการและกลับมาเท่านั้น ที่จะสามารถบรรยายภาพดังกล่าวให้กษัตริย์ฟังได้ และคำว่ามหาสมุทร มักจะใช้ในการเปรียบเปรยว่า พื้นที่ที่ดวงดาวส่องประกาย)
ด้วยความหวังในการรอคอยเทพเจ้าเหนือมหาสมุทรมาเยือนอาณาจักร... หรือผู้ที่อยู่เหนือเทพเจ้าทั้งปวง พวกเขาจึงได้สร้างสถาบันเพื่อเลี้ยงดูเด็กเช่นนี้ หลังจากนั้น เด็กกำพร้าในอาณาจักรหรือเด็กเร่ร่อนพเนจรจากต่างแดน ก็ต่างเป็นที่ยอมรับ

ความทรงจำแรกในชีวิตของ Perinheri ในวัยเด็กก็คือ การที่ถูกพวกผู้ใหญ่ขอให้ปีนเข้าไปในอุโมงค์ที่มืดมิด อุโมงค์เหล่านี้อาจเป็นท่อระบายควันที่ใช้เผาไฟในฤดูหนาว ซึ่งภายในเต็มไปด้วยเถ้าถ่าน และไม่มีแม้แต่รอยแยกที่ควันจะเล็ดลอดออกไป หรือแม้แต่แสงที่จะผ่านเข้ามาได้เลย ขณะที่ Perinheri ปีนป่าย บางครั้งก็ตกลงไปในความมืด แต่ดีที่อุโมงค์นี้มีการออกแบบเพื่อให้เด็กสามารถเดินผ่านได้อยู่แล้ว ถึงแม้จะตกลงมาก็ไม่ทำให้เจ็บมากนัก และไม่มีใยแมงมุมที่น่ารังเกียจอีกด้วย
ในที่สุด Perinheri ก็เดินมาถึงปลายทาง แต่ทางออกกลับถูกปิดกั้น เมื่อเขาได้เคาะประตู ก็ได้ยินเพียงเสียงที่เย็นชาของพวกผู้ใหญ่ถามว่า: "เจ้าตายรึยัง?"
ถ้าตายแล้ว จะตอบได้ยังไงล่ะ? แต่พวกผู้ใหญ่ไม่ชอบคำตอบนี้ พวกเขาถามคำถามเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา กระทั่ง Perinheri ตะโกนว่า: "ตายแล้ว!"
พวกผู้ใหญ่ถามต่อว่า: "แล้วเห็นรึยัง?"
อาจเป็นเพราะความน่ากลัวที่เกิดจากความมืด ประกอบกับความหิวและความเหนื่อยล้า ทำให้ Perinheri มองเห็นภาพลวงตา พระจันทร์สีแดงลอยสูงอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืนที่มืดมิด แล้วจู่ ๆ มันก็หันกลับมา ที่แท้มันก็คือดวงตาที่ใหญ่และน่ากลัวอย่างยิ่ง
พวกผู้ใหญ่เปิดประตู และอุ้ม Perinheri ที่เปื้อนถ่านดำไปทั้งตัว: "เจ้าเดินผ่านเพลิงของสองโลกที่อยู่ในเตาผิงไฟแล้ว ตอนนี้เจ้าได้รับชีวิตใหม่ในที่แห่งนี้แล้ว"

ถึงแม้จันทราแดงจะลาลับ และสุริยันดำโผขึ้น หรือจวบจนสุริยันดำลาลับอีกครั้ง บุคคลเหนือชั้นที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าของอาณาจักรรอคอยมาตลอดก็ยังไม่มาถึง แต่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าก็มีคนที่มีความสามารถพิเศษมากมาย ซึ่งในบรรดาพวกเขานั้นก็ได้กลายเป็นอัศวินที่ยิ่งใหญ่ของอาณาจักร และ Perinheri ก็เป็นผู้นำอย่างไร้ข้อกังขาในยุคนั้น เว้นเสียแต่ว่าเขาจะถูกบังคับให้แข่งขันกับเพื่อนรักอย่าง Hleobrant
เดิมทีพวกเขาควรจะแข่งกันสร้างความดีความชอบ เพื่อหาผู้ชนะจากจำนวนและความยิ่งใหญ่ของเกียรติยศ และจำนวนการดื่มสุราในงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จ แต่ไม่รู้ว่าทำไม พวกเขากลับเดินบนทางตันที่ต้องฟาดฟันกันโดยไม่คิดถึงชีวิต

Obtained From

Shop

Name
Hubel Shop
items per Page
PrevNext

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton