“เกาะเมฆครึ้มปกคลุม”

IconNameRarityFamily
"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"1
Rarstr
Non-Codex Series, "เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"
"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"1
Rarstr
"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม", Non-Codex Series
items per Page
PrevNext

"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"

Name"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyNon-Codex Series, "เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"
RarityRaritystr
Description(test)小说手稿前

ผู้เขียน: Sawada


ส่วนคัดสรร 1

...
...
เล่ากันว่าประมาณบ่ายสามโมงในวันนั้น ใครคนหนึ่งเดินทางมาถึง Tatarasuna มองเห็นได้แต่ไกลว่าคนงานกำลังเดินเลียบเส้นทางภูเขาไปยังโรงงาน พื้นรองเท้าเสียดสีกับโขดหินขนาดใหญ่ เกิดเป็นเสียงที่แผ่วเบาทว่าสะเทือนถึงหัวใจ ราวกับว่าขอเพียงพวกเขาข้ามผ่านที่นี่ไปถึงเตาหลอมขนาดใหญ่ในภูเขา ก็จะสามารถนำเอาอัญมณีที่ล้ำค่าออกมาจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนได้ แน่นอนว่าหากไม่ใช่ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นก็คงไม่อาจเข้าใจความรู้สึกนี้ได้หรอก
คนคนนั้นเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ แล้ววิ่งไปเข้ากลุ่มอย่างรวดเร็ว ชายร่างกำยำคนหนึ่งที่สูงกว่าคนด้านข้างไปเกือบครึ่งศีรษะตบหลังเขาอย่างแรง แต่กลับพูดด้วยความเคารพนอบน้อมว่า: "ดูสิว่าใครมา? ท่าน Miyazaki! เดินทางไปกลับเมือง Inazuma ลำบากน่าดูเลยนะขอรับ"
Miyazaki ยิ้มกว้างอย่างกับหนุ่มที่เพิ่งได้เข้าสังคม สีหน้าท่าทางก็ดูผ่อนคลาย "ฟังท่าน Katsuragi พูดเข้าสิ เมือง Inazuma เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ใต้การปกครองของท่านโชกุน ตอนข้ากลับมาจากที่นั่น ข้านั่งเรือที่เร็วที่สุดและแล่นเรือบนเส้นทางน้ำที่เร็วที่สุด จะไปเจอกับเรื่องอันตรายได้อย่างไร?"
"แล้วข่าวดีล่ะ?"
"มันก็ต้องมีอยู่แล้วสิ" ว่าแล้ว ทั้งสองก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน แล้วเดินเบียดคนงานที่รุมล้อมกันเข้ามาไปจนสุดถนน

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดผ้าฝ้ายเรียบง่าย และผูกผ้าโพกหัวกำลังเฝ้าดูแรงไฟอยู่หน้าเตา
ไฟที่ใช้ตีเหล็กนั้นไม่เหมือนกับไฟอื่น ๆ ซึ่งความแรงของไฟจะส่งผลต่อคุณภาพของเหล็กและดาบ คนที่เฝ้าดูแรงไฟก็ไม่ธรรมดา ปลายนิ้วของเขามีกิ้งก่าตัวหนึ่งยืนอยู่ บนใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้ม
พื้นที่กว้างขวางมาก เตาหลอมจะอยู่ลึกเข้าไปอีก ตามหลักแล้วต้องมีคนคอยช่วยมากกว่านี้ แต่เขากลับยืนอยู่ที่นี่เพียงลำพัง จนกระทั่ง Katsuragi และ Miyazaki เดินรุดเข้าไป เขาจึงจะหันหน้ามา
คนคนนี้ก็คือท่านเจ้าหน้าที่คลังอาวุธ Niwa Hisahide ผู้ดูแล Tatarasuna เขากำเนิดในตระกูล Niwa ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูล Isshin Art เขาคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง โดยที่ไม่เคยแข่งขันกับพี่น้องมาก่อน การได้รับความชื่นชมจากนายท่านทั้งหลาย และมียศตำแหน่งนี้ก็ถือหลักฐานยืนยันอย่างหนึ่งแล้ว
Miyazaki นำเอกสารที่ห่อด้วยผ้าทอไว้เป็นอย่างดีส่งให้กับ Niwa แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า: "เหมือนอย่างที่ท่านพูดมา ญาติของท่านที่อยู่ในเมืองไม่ได้เห็นด้วยกับแผนของเราสักเท่าไหร่ แต่แผนของ Akame คุ้มค่าที่จะลอง ดังนั้นข้าจึงไปหาคนจัดหาสินค้า แล้วตระเตรียมสิ่งของที่ท่านต้องการตามรายการที่ต้องซื้อแล้ว"
Niwa ละสายตาจากเอกสาร แล้วพยักหน้าเบา ๆ: "ไม่ว่า Kaedehara จะให้การสนับสนุนหรือไม่ เราก็ควรทดลองใช้เทคนิคการตีแบบใหม่ดู"
ทว่า Katsuragi กลับขมวดคิ้ว ถอนหายใจพูดว่า: "การตีดาบเป็นเรื่องยากที่ต้องอาศัยเทคนิคมาแต่ไหนแต่ไร ท่านทั้งหลายต่างก็เชี่ยวชาญมากพอแล้ว นี่ยังคิดจะพัฒนาให้ดีขึ้นอีก ช่างน่ากลัวเสียจริง! ถ้าท่าน Nagamasa มาได้ยินเข้า คงจะแสดงสีหน้าลำบากใจอีกแล้วแน่ ๆ"
Niwa ยิ้มพลางพูดว่า: "ท่าน Katsuragi ดาบของท่าน Nagamasa เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"
Katsuragi ไม่อยากทำให้ชื่อเสียงของเจ้านายเสื่อมเสีย และไม่อยากโกหกเพื่อนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็หาคำพูดที่ฟังดูเหมาะสมไม่ได้สักที จึงพูดอย่างเคือง ๆ ว่า: "ท่าน Niwa ฝีมือล้ำเลิศ จนฟังคำพูดขบขันของคนสามัญอย่างเรา ๆ ไม่เข้าหูเลยสินะ?"
Miyazaki เอามือป้องปากหัวเราะร่าขึ้นมาทันที Niwa ฟังแล้วก็นำกิ้งก่าในมือไปวางไว้บนฝ่ามือของ Katsuragi ขณะที่กำลังจะพูดอะไรต่อสักหน่อย ก็มีคนเดินเข้ามาจากบริเวณไกล ๆ คราวนี้เสียงฝีเท้าเบาหวิว ฟังแล้วดูเหมือนจะเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ศีรษะกลม ๆ ที่ชะโงกเข้ามานั้น ถูกแสงไฟส่องกระทบจนวาววับราวกับไข่มุก
เด็กหนุ่มนำกล่องข้าววางไว้ข้าง ๆ แล้วพยักหน้าเตรียมจะเดินจากไป Katsuragi รีบเรียกรั้งเขาไว้: "แล้วของเจ้าล่ะ? ไม่กินเหรอ?"
เมื่อหนุ่มคนนั้นได้ยินแบบนี้ ก็ไม่รู้จะทำตัวอย่างไร ผ่านไปสักพักจึงจะตอบว่า: "...ขอรับ ข้าจะลองชิมดู"
"กับข้าวก็เหมือน ๆ กัน เจ้าไม่ต้องเกรงใจหรอกนะ" Niwa บอกเขา หนุ่มคนนั้นพยักหน้าอีกครั้ง แล้วเดินจากไปพร้อมกับครุ่นคิดอะไรอยู่


ส่วนคัดสรร 2

...
...
Kabukimono อยู่ที่ริมทะเล
ยามตะวันตกดิน ท้องฟ้าไม่มีแสงสว่างเลยแม้แต่น้อย มีแต่เมฆฝนที่ลอยละล่องปกคลุมไปทั่ว เป็นสัญญาณเตือนว่าพายุฝนคะนองกำลังจะมาเยือนแล้ว
ผิวน้ำทะเลมืดมิดลง พลบค่ำกดบังคับให้หมู่เมฆคุกเข่าต่อผืนธรณี เหมือนกับที่ Kabukimono กำลังคุกเข่าหันหน้าไปทางมหาสมุทร ฉันใดก็ฉันนั้น
ไร้คนสัญจรผ่าน และไม่มีผู้ใดรู้ว่าขณะนี้เขากำลังรอคอยอะไรอยู่อย่างเงียบ ๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร พลันเมฆครึ้มก้อนหนึ่งลอยลงมาจากกลางฟ้า วนเวียนล้อมรอบ Kabukimono พัวพันเขาไว้ราวกับฝันร้าย ในตอนแรกเขาไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด เมื่อลืมตาขึ้นพักหนึ่งจึงเข้าใจว่าเมฆก้อนนี้พุ่งเป้ามาหาเขาตั้งแต่แรก
เรือประมงแล่นมาจากที่ไกล แสงไฟหน้าเรือแกว่งไปมาท่ามกลางลมฝนที่ค่อย ๆ ซัดสาด ในเวลานี้เอง หมอกบาง ๆ ก็กระจายตัวออกไป ชาวประมงบนเรือมองเห็นเส้นทางได้ไม่ชัด จึงร้องขึ้นอย่างตกใจว่า: "นี่เพิ่งจะพลบค่ำเองนะ มองอะไรไม่เห็นซะอย่างงั้น มีใครช่วยนำทางได้บ้างมั้ย!"
เมฆครึ้มก้อนนั้นลอดเข้ามาใต้ท้องเรือ ทำให้เรือสูญเสียทิศทางและพุ่งมายังชายฝั่งอย่างจังราวกับสัตว์ร้าย ณ บริเวณที่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว Kabukimono ยืนปล่อยมือไว้ข้างลำตัว เบือนศีรษะมองไปยังซากเรือขนาดมหึมาที่อยู่เบื้องหน้า
คนที่ตะโกนร้องก่อนหน้านี้เหลืออยู่เพียงครึ่งแขน แล้วมันก็ร่วงตกมาที่ข้างเท้าของ Kabukimono เสียงดัง "ปึก" เขาย่อตัวลงและมองสิ่งนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แทบอยากจะยัดเข้าปากกัดดูสักคำ
แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะเมฆครึ้มก้อนนั้นหมุนวนลงไป และกลืนกินสิ่งที่หลงเหลืออยู่บนเรือทั้งลำจนหมดเกลี้ยง Kabukimono มองดูอย่างนิ่งเงียบเป็นเวลานานมาก กว่าจะได้สติราวกับเพิ่งตื่นขึ้นจากความฝัน เมื่อเขารู้สึกตัวอีกครั้ง เมฆครึ้มก็สลายตัวลอยไปทั่วสารทิศ ไม่เหลือแม้แต่ร่องรอย ส่วนเรือลำนั้นที่อยู่ตรงหน้า... เป็นเพราะพายุฝนกลางทะเลงั้นเหรอ? ใครจะไปรู้กัน Kabukimono ไม่ได้มองเห็นชัดเจนนัก


ส่วนคัดสรร 3

...
...
Katsuragi วิ่งเข้าประตูอย่างรีบร้อนและตะโกนว่า: "ท่าน! เกิดปัญหาขึ้นกับเตาหลอม ข้าตามหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอแม้แต่เงาของท่าน Niwa แถมท่าน Miyazaki ก็ออกไปขอความช่วยเหลือตั้งนานแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่มีจดหมายส่งกลับมาเลย ท่านดูสิ..."
Mikoshi Nagamasa ค่อย ๆ หันมา สีหน้าเคร่งขรึมราวกับกำลังเข้าร่วมพิธีศพ ทุกคำพูดที่เอ่ยออกมาฟังดูหนักอึ้ง: "ข้าไม่อยากพูดเช่นนี้หรอก แต่ว่า Katsuragi ท่าน Miyazaki น่ะ... อาจไม่กลับมาแล้ว"
สายตาของ Katsuragi มองข้ามไหล่ที่กำยำและแข็งกระด้างของ Nagamasa ไปยังนอกหน้าต่าง... เมฆครึ้มเหนือทะเลกำลังเกาะกลุ่มเป็นคลื่น ท้องฟ้ามืดมนจนน่าสะพรึงกลัว ราวกับว่าความมืดได้กลายเป็นสภาพอากาศเพียงหนึ่งเดียว ที่อยากจะกลายร่างเป็นอสูรเพื่อกลืนกิน Tatarasuna ให้รู้แล้วรู้รอด
ตายไปนับสิบคนแล้ว เพราะงั้น เพราะงั้น...
Katsuragi เหมือนโดนชกเข้าไปหนึ่งหมัด และเริ่มหวนนึกขึ้นได้: เพราะงั้นพวกเขาถึงได้ออกไปขอความช่วยเหลือไงล่ะ!
Miyazaki ออกเรือไปเป็นคนแรก ในยามที่เขาจากไป เมฆแบบนี้เพิ่งจะก่อตัวขึ้น การเดินทางจาก Tatarasuna ไปยังเมือง Inazuma เพื่อขอความช่วยเหลือ ตามหลักแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ Miyazaki กลับยังไม่กลับมาเสียที
คนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่... มาจนถึง Kabukimono คนล่าสุดที่ออกเรือไป เขาขับเรือท่ามกลางสภาพอากาศแบบนี้ ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร Katsuragi เก็บเขามาเลี้ยง ปฏิบัติต่อเขาเหมือนกับลูกของตัวเอง แน่นอนว่าต้องอาลัยอาวรณ์เป็นธรรมดา แต่สถานการณ์ของ Tatarasuna ในตอนนี้คับขันมาก แม้ต้องมีคนสละชีวิตอีก พวกเขาก็อยากได้รับการคุ้มครองจากเมืองหลัก

Niwa หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ไม่นานหลังจากนั้น Nagamasa ก็พาคนกลุ่มหนึ่งฝ่าอันตรายเข้าไปในภูเขา และทำการค้นหารอบ ๆ โดยยึดเอาเตาหลอมเป็นจุดเริ่มต้น แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ทุกคนต่างคิดว่า Niwa อาจประสบการณ์อุบัติเหตุอะไรเข้า แต่พอมาคิด ๆ ดู ก็กังวลว่าเขาจะหลบหนีไปเพราะรับไม่ได้กับเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นที่นี่
ผู้คนต่างสงสัยขึ้นมา ส่วน Nagamasa อดกลั้นโทสะและความไม่พอใจเอาไว้ ดูสีหน้าของเขาแล้ว ไม่ต่างอะไรจากเมฆครึ้มที่อยู่ไกล ๆ นั่นเลย
ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งเคลื่อนผ่าน Nagamasa ชักดาบยาวออกมาจากเอวอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล ปลายดาบตวัดขึ้นเฉือนผ้าคลุมหน้าผืนบาง เงาร่างนั้นเซไปเล็กน้อย แล้วเคลื่อนที่มาด้านหลังของ Nagamasa ราวกับหุ่นเชิด ยิ้มอย่างน่าขนลุกพร้อมพูดว่า: "ท่านตามหาอะไรอยู่หรือ? Niwa งั้นสิ?"
Nagamasa ตะคอกอย่างโมโหว่า: "เรียกท่าน Niwa ตรง ๆ แบบนั้นได้อย่างไร!" เมื่อฟันดาบลงไป เงาร่างนั้นก็สลายหายไปในม่านหมอก แล้วก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ณ บริเวณที่ไกลออกไปในชั่วพริบตา กลายเป็นเงาวิญญาณที่พิลึกพิลั่น
"แกฆ่าคนของข้ารึ?" Nagamasa พุ่งตัวเข้าไปด้วยความโกรธ แต่กลับถูก Katsuragi รั้งไว้อย่างสุดพลัง เมื่อเพ่งมองอีกที ที่แท้เขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะตกลงไปในเตาหลอมแล้ว


(ส่วนที่เหลือดูเหมือนว่าจะยังเขียนไม่หมด...แต่เห็นได้ว่า นี่คือนวนิยายเชิงแฟนตาซี และเปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่แต่งขึ้นโดยมีพื้นฐานมาจากข้อมูลซึ่งระบุไว้ในวิทยานิพนธ์ฉบับก่อนหน้านี้)

"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"

Name"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม"
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
Family"เกาะเมฆครึ้มปกคลุม", Non-Codex Series
RarityRaritystr
Description(test)小说手稿后

ผู้เขียน: Sawada


ส่วนคัดสรร 1

...
...
เล่ากันว่าประมาณบ่ายสามโมงในวันนั้น ใครคนหนึ่งเดินทางมาถึง Tatarasuna มองเห็นได้แต่ไกลว่าคนงานกำลังเดินเลียบเส้นทางภูเขาไปยังโรงงาน พื้นรองเท้าเสียดสีกับโขดหินขนาดใหญ่ เกิดเป็นเสียงที่แผ่วเบาทว่าสะเทือนถึงหัวใจ ราวกับว่าขอเพียงพวกเขาข้ามผ่านที่นี่ไปถึงเตาหลอมขนาดใหญ่ในภูเขา ก็จะสามารถนำเอาอัญมณีที่ล้ำค่าออกมาจากเปลวเพลิงที่ลุกโชนได้ แน่นอนว่าหากไม่ใช่ผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ตอนนั้นก็คงไม่อาจเข้าใจความรู้สึกนี้ได้หรอก
คนคนนั้นเอ่ยทักทายด้วยความดีใจ แล้ววิ่งไปเข้ากลุ่มอย่างรวดเร็ว ชายร่างกำยำคนหนึ่งที่สูงกว่าคนด้านข้างไปเกือบครึ่งศีรษะตบหลังเขาอย่างแรง แต่กลับพูดด้วยความเคารพนอบน้อมว่า: "ดูสิว่าใครมา? ท่าน Miyazaki! เดินทางไปกลับเมือง Inazuma ลำบากน่าดูเลยนะขอรับ"
Miyazaki ยิ้มกว้างอย่างกับหนุ่มที่เพิ่งได้เข้าสังคม สีหน้าท่าทางก็ดูผ่อนคลาย "ฟังท่าน Katsuragi พูดเข้าสิ เมือง Inazuma เป็นพื้นที่ซึ่งอยู่ใต้การปกครองของท่านโชกุน ตอนข้ากลับมาจากที่นั่น ข้านั่งเรือที่เร็วที่สุดและแล่นเรือบนเส้นทางน้ำที่เร็วที่สุด จะไปเจอกับเรื่องอันตรายได้อย่างไร?"
"แล้วข่าวดีล่ะ?"
"มันก็ต้องมีอยู่แล้วสิ" ว่าแล้ว ทั้งสองก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน แล้วเดินเบียดคนงานที่รุมล้อมกันเข้ามาไปจนสุดถนน

ชายหนุ่มคนหนึ่งที่สวมชุดผ้าฝ้ายเรียบง่าย และผูกผ้าโพกหัวกำลังเฝ้าดูแรงไฟอยู่หน้าเตา
ไฟที่ใช้ตีเหล็กนั้นไม่เหมือนกับไฟอื่น ๆ ซึ่งความแรงของไฟจะส่งผลต่อคุณภาพของเหล็กและดาบ คนที่เฝ้าดูแรงไฟก็ไม่ธรรมดา ปลายนิ้วของเขามีกิ้งก่าตัวหนึ่งยืนอยู่ บนใบหน้าเจือด้วยรอยยิ้ม
พื้นที่กว้างขวางมาก เตาหลอมจะอยู่ลึกเข้าไปอีก ตามหลักแล้วต้องมีคนคอยช่วยมากกว่านี้ แต่เขากลับยืนอยู่ที่นี่เพียงลำพัง จนกระทั่ง Katsuragi และ Miyazaki เดินรุดเข้าไป เขาจึงจะหันหน้ามา
คนคนนี้ก็คือท่านเจ้าหน้าที่คลังอาวุธ Niwa Hisahide ผู้ดูแล Tatarasuna เขากำเนิดในตระกูล Niwa ซึ่งเป็นหนึ่งในสามตระกูล Isshin Art เขาคือผู้สืบทอดที่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างแท้จริง โดยที่ไม่เคยแข่งขันกับพี่น้องมาก่อน การได้รับความชื่นชมจากนายท่านทั้งหลาย และมียศตำแหน่งนี้ก็ถือหลักฐานยืนยันอย่างหนึ่งแล้ว
Miyazaki นำเอกสารที่ห่อด้วยผ้าทอไว้เป็นอย่างดีส่งให้กับ Niwa แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจังว่า: "เหมือนอย่างที่ท่านพูดมา ญาติของท่านที่อยู่ในเมืองไม่ได้เห็นด้วยกับแผนของเราสักเท่าไหร่ แต่แผนของ Akame คุ้มค่าที่จะลอง ดังนั้นข้าจึงไปหาคนจัดหาสินค้า แล้วตระเตรียมสิ่งของที่ท่านต้องการตามรายการที่ต้องซื้อแล้ว"
Niwa ละสายตาจากเอกสาร แล้วพยักหน้าเบา ๆ: "ไม่ว่า Kaedehara จะให้การสนับสนุนหรือไม่ เราก็ควรทดลองใช้เทคนิคการตีแบบใหม่ดู"
ทว่า Katsuragi กลับขมวดคิ้ว ถอนหายใจพูดว่า: "การตีดาบเป็นเรื่องยากที่ต้องอาศัยเทคนิคมาแต่ไหนแต่ไร ท่านทั้งหลายต่างก็เชี่ยวชาญมากพอแล้ว นี่ยังคิดจะพัฒนาให้ดีขึ้นอีก ช่างน่ากลัวเสียจริง! ถ้าท่าน Nagamasa มาได้ยินเข้า คงจะแสดงสีหน้าลำบากใจอีกแล้วแน่ ๆ"
Niwa ยิ้มพลางพูดว่า: "ท่าน Katsuragi ดาบของท่าน Nagamasa เป็นอย่างไรบ้างแล้ว?"
Katsuragi ไม่อยากทำให้ชื่อเสียงของเจ้านายเสื่อมเสีย และไม่อยากโกหกเพื่อนทั้งสองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยเช่นกัน แต่ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็หาคำพูดที่ฟังดูเหมาะสมไม่ได้สักที จึงพูดอย่างเคือง ๆ ว่า: "ท่าน Niwa ฝีมือล้ำเลิศ จนฟังคำพูดขบขันของคนสามัญอย่างเรา ๆ ไม่เข้าหูเลยสินะ?"
Miyazaki เอามือป้องปากหัวเราะร่าขึ้นมาทันที Niwa ฟังแล้วก็นำกิ้งก่าในมือไปวางไว้บนฝ่ามือของ Katsuragi ขณะที่กำลังจะพูดอะไรต่อสักหน่อย ก็มีคนเดินเข้ามาจากบริเวณไกล ๆ คราวนี้เสียงฝีเท้าค่อนข้างมีน้ำหนัก รู้ได้ว่าผู้มาเยือนนั้นก้าวเดินอย่างหนักแน่นและมั่นใจ ไม่นานนัก ใบหน้าของคนต่างแดนซึ่งแตกต่างไปจากผู้อื่นก็โผล่มาที่ข้างประตู คนคนนั้นนำกล่องข้าวในมือวางไว้ข้าง ๆ แล้วพยักหน้าเตรียมจะเดินจากไป Katsuragi รีบเรียกรั้งเขาไว้: "แล้วของเจ้าล่ะ? ไม่กินเหรอ?"
คนคนนั้นได้ยินแบบนี้ก็ยิ้มพลางพูดว่า: "ข้ากินแล้ว พวกท่านรีบทานกันเถอะ"
"เจ้าเป็นแขกของพวกเรา แถมยังช่วยจัดการเรื่องจุกจิกเหล่านี้อีก ข้าล่ะเกรงใจจริง ๆ" Niwa กล่าวอย่างจริงใจ
คนคนนั้นยิ้มอย่างเป็นมิตร ราวกับไม่ได้ติดใจอะไรกับการทำเรื่องเล็กน้อยเหล่านี้ให้ผู้อื่น เขาพยักหน้าอีกครั้งแล้วเดินจากไป


ส่วนคัดสรร 2

...
...
แขกแปลกหน้า... ช่างจักรกลผู้มาจากต่างแดนยืนอยู่ที่ริมทะเล
ยามตะวันตกดิน ท้องฟ้าไม่มีแสงสว่างเลยแม้แต่น้อย มีแต่เมฆฝนที่ลอยละล่องปกคลุมไปทั่ว เป็นสัญญาณเตือนว่าพายุฝนคะนองกำลังจะมาเยือนแล้ว
ผิวน้ำทะเลมืดมิดลงไป พลบค่ำกดบังคับให้หมู่เมฆคุกเข่าต่อผืนธรณี ทว่าเขาไม่ได้ตกตะลึงเลยแม้แต่น้อย แต่กลับจ้องมองไปยังบริเวณไกล ๆ และเผยให้เห็นแววตาที่กระหายเลือด
ไร้คนสัญจรผ่าน และไม่มีผู้ใดรู้ว่าขณะนี้เขากำลังครุ่นคิดอะไรอยู่อย่างเงียบ ๆ
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไร พลันเมฆครึ้มก้อนหนึ่งลอยลงมาจากกลางฟ้า วนเวียนล้อมรอบช่างจักรกล พัวพันเขาไว้ราวกับฝันร้าย เขาลูบควันสีดำนั้นอย่างเบามือ ราวกับกำลังลูบไล้ส่วนหนึ่งของตัวเขาเอง
เรือประมงแล่นมาจากที่ไกล แสงไฟหน้าเรือแกว่งไปมาท่ามกลางลมฝนที่ค่อย ๆ ซัดสาด ในเวลานี้เอง หมอกบาง ๆ ก็กระจายตัวออกไป ชาวประมงบนเรือมองเห็นเส้นทางได้ไม่ชัด จึงร้องขึ้นอย่างตกใจว่า: "นี่เพิ่งจะพลบค่ำเองนะ มองอะไรไม่เห็นซะอย่างงั้น มีใครช่วยนำทางได้บ้างมั้ย!"
เมฆครึ้มก้อนนั้นลอดเข้ามาใต้ท้องเรือ ทำให้เรือสูญเสียทิศทางและพุ่งมายังชายฝั่งอย่างจังราวกับสัตว์ร้าย ณ บริเวณที่ห่างออกไปไม่กี่ก้าว ช่างจักรกลยิ้มขึ้นมา แล้วค่อย ๆ เดินไปยังซากเรือขนาดมหึมาที่อยู่เบื้องหน้า
คนที่ตะโกนร้องก่อนหน้านี้เหลืออยู่เพียงครึ่งแขน แล้วมันก็ร่วงตกมาที่ข้างเท้าของช่างจักรกลเสียงดัง "ปึก" เขาย่อตัวลงและมองสิ่งนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก แทบอยากจะยัดเข้าปากกัดดูสักคำ
แต่ท้ายที่สุดเขาก็ไม่ได้ทำเช่นนั้น เพราะเมฆครึ้มก้อนนั้นหมุนวนลงไป และกลืนกินสิ่งที่หลงเหลืออยู่บนเรือทั้งลำจนหมดเกลี้ยง


ส่วนคัดสรร 3

...
...
Katsuragi วิ่งเข้าประตูอย่างรีบร้อนและตะโกนว่า: "ท่าน! เกิดปัญหาขึ้นกับเตาหลอม ข้าตามหาจนทั่วแล้วก็ไม่เจอแม้แต่เงาของท่าน Niwa แถมท่าน Miyazaki ก็ออกไปขอความช่วยเหลือตั้งนานแล้ว จนป่านนี้ก็ยังไม่มีจดหมายส่งกลับมาเลย ท่านดูสิ..."
Mikoshi Nagamasa ค่อย ๆ หันมา สีหน้าเคร่งขรึมราวกับกำลังเข้าร่วมพิธีศพ ทุกคำพูดที่เอ่ยออกมาฟังดูหนักอึ้ง: "ข้าไม่อยากพูดเช่นนี้หรอก แต่ว่า Katsuragi ท่าน Miyazaki น่ะ... อาจไม่กลับมาแล้ว"
สายตาของ Katsuragi มองข้ามไหล่ที่กำยำและแข็งกระด้างของ Nagamasa ไปยังนอกหน้าต่าง... เมฆครึ้มเหนือทะเลกำลังเกาะกลุ่มเป็นคลื่น ท้องฟ้ามืดมนจนน่าสะพรึงกลัว ราวกับว่าความมืดได้กลายเป็นสภาพอากาศเพียงหนึ่งเดียว ที่อยากจะกลายร่างเป็นอสูรเพื่อกลืนกิน Tatarasuna ให้รู้แล้วรู้รอด
ตายไปนับสิบคนแล้ว เพราะงั้น เพราะงั้น...
Katsuragi เหมือนโดนชกเข้าไปหนึ่งหมัด และเริ่มหวนนึกขึ้นได้: เพราะงั้นพวกเขาถึงได้ออกไปขอความช่วยเหลือไงล่ะ!
Miyazaki ออกเรือไปเป็นคนแรก ในยามที่เขาจากไป เมฆแบบนี้เพิ่งจะก่อตัวขึ้น การเดินทางจาก Tatarasuna ไปยังเมือง Inazuma เพื่อขอความช่วยเหลือ ตามหลักแล้วไม่ใช่เรื่องยากเลย แต่ Miyazaki กลับยังไม่กลับมาเสียที
คนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่... ผู้ที่ออกไปขอความช่วยเหลือทุกคนต่างขับเรือจากไปท่ามกลางสภาพอากาศแบบนี้ ไม่รู้เป็นตายร้ายดี ตามหลักแล้ว พวกเขาไม่ควรให้ใครเข้าไปเสี่ยงอันตรายอีก แต่สถานการณ์ของ Tatarasuna ในตอนนี้คับขันมาก ต่อให้มีคนสละชีวิตอีก ก็ต้องขอการคุ้มครองจากเมืองหลักมาให้ได้

Niwa หายตัวไป ไม่มีใครรู้ว่าเขาไปอยู่ที่ไหน ไม่นานหลังจากนั้น Nagamasa ก็พาคนกลุ่มหนึ่งฝ่าอันตรายเข้าไปในภูเขา และทำการค้นหารอบ ๆ โดยยึดเอาเตาหลอมเป็นจุดเริ่มต้น แต่ก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ทุกคนต่างคิดว่า Niwa อาจประสบการณ์อุบัติเหตุอะไรเข้า แต่พอมาคิด ๆ ดู ก็กังวลว่าเขาจะหลบหนีไปเพราะรับไม่ได้กับเรื่องแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นที่นี่
ผู้คนต่างสงสัยขึ้นมา ส่วน Nagamasa อดกลั้นโทสะและความไม่พอใจเอาไว้ ดูสีหน้าของเขาแล้ว ไม่ต่างอะไรจากเมฆครึ้มที่อยู่ไกล ๆ นั่นเลย
ทันใดนั้นก็มีเงาร่างหนึ่งเคลื่อนผ่าน Nagamasa ชักดาบยาวออกมาจากเอวอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล เงาร่างนั้นเซไปเล็กน้อย แล้วเคลื่อนที่มาด้านหลังของ Nagamasa อย่างรวดเร็วราวกับปีศาจร้าย มันยิ้มอย่างน่าขนลุกพร้อมพูดว่า: "ท่านตามหาอะไรอยู่หรือ? Niwa งั้นสิ?"
Nagamasa ตะคอกอย่างโมโหว่า: "เรียกท่าน Niwa ตรง ๆ แบบนั้นได้อย่างไร!" เมื่อฟันดาบลงไป เงาร่างนั้นก็สลายหายไปในม่านหมอก แล้วก่อตัวขึ้นอีกครั้ง ณ บริเวณที่ไกลออกไปในชั่วพริบตา กลายเป็นเงาวิญญาณที่พิลึกพิลั่น
"แกฆ่าคนของข้ารึ?" Nagamasa พุ่งตัวเข้าไปด้วยความโกรธ แต่กลับถูก Katsuragi รั้งไว้อย่างสุดพลัง เมื่อเพ่งมองอีกที ที่แท้เขาเหลืออีกเพียงก้าวเดียวก็จะตกลงไปในเตาหลอมแล้ว


(ส่วนที่เหลือดูเหมือนว่าจะยังเขียนไม่หมด...แต่เห็นได้ว่า นี่คือนวนิยายเชิงแฟนตาซี และเปี่ยมไปด้วยจินตนาการที่แต่งขึ้นโดยมีพื้นฐานมาจากข้อมูลซึ่งระบุไว้ในวิทยานิพนธ์ฉบับก่อนหน้านี้)

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton