เรื่องราวแห่งตรอก Toki

IconNameRarityFamily
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
Book, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
Book, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
Book, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
Book, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
Book, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)4
RarstrRarstrRarstrRarstr
Book, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
items per Page
PrevNext
Table of Content
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)Nameเรื่องราวแห่งตรอก Toki (บทนำ)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionตำนานเล่าว่า ในยุคที่ผู้คนอ่อนแอและไม่สามารถข้ามทะเลได้นั้น Inazuma เคยเป็นดินแดนแห่งทานูกิ และแรกเริ่มเดิมที ประวัติศาสตร์ของมนุษย์ก็ถูกสร้างขึ้นโดยทานูกิที่เมามายแล้วปั้นเรื่องราวขึ้นมา...ตรอก Toki ตรอกที่ผสมผสานทั้งประวัติศาสตร์และคำพูดอันบ้าระห่ำ
บทนำ·ประวัติย่อของ Inazuma จากคำบอกเล่าของทานูกิ

ว่ากันว่าในอดีต สมัยที่มนุษย์ปุถุชนยังอ่อนแอ มีอายุขัยสั้น และยังไม่เคยข้ามมหาสมุทรมา Inazuma นั้นเป็นดินแดนของทานูกิ
ทานูกิมีนิสัยขี้เกียจ จิตใจรวนเร ไม่เคยห่วงว่าวันพรุ่งนี้ของตัวเองจะเป็นยังไง และไม่เคยเก็บปัญหาไว้ให้ปวดสมองจนถึงวันรุ่งขึ้น ทำให้ตอนนั้น Inazuma เปรียบเสมือนสวนสนุกของทานูกิ ทุกๆ วันคืนงานเทศกาลที่แสนรื่นเริง

อย่างน้อย คนเฒ่าคนแก่ของตระกูลทานูกิ ก็เล่ากันมาแบบนี้

แต่พอพวกจิ้งจอกข้ามมหาสมุทรมา ก็ได้เปิดฉาก ทำสงครามกับตระกูลทานูกิเป็นเวลานับพันปี ทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหายหนัก แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องหันมาเจรจากัน แม้ถึงตอนนี้ ทานูกิจะยังปากแข็ง ไม่เคยยอมรับว่าเป็นฝ่ายแพ้ แต่ก็ตัดต้น Thunder Sakura ที่มีขนาดใหญ่มโหฬารให้เผ่าจิ้งจอกไปแล้ว

แต่อย่างไรเสีย จิ้งจอกก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่กะล่อน และรวนเรไม่แพ้กัน เล่ากันว่าในสงครามนับพันปีครั้งนั้น ก็มีจิ้งจอก และทานูกิโชคร้ายจำนวนไม่น้อย ที่ผันเวียนเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าการต่อสู้ของตัวเองจนตาลายเพราะวิชาแปลงร่างนี้ ลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร และอยู่ฝ่ายใด

ดังนั้น จึงมีมนุษย์ปุถุชนที่ไร้ซึ่งความสามารถ กำเนิดเกิดขึ้นจากมอนสเตอร์ที่กำลังงงงวยเหล่านี้

ฉันได้ยินเรื่องเล่าแบบนี้มาจากเท็งงุ ที่ชอบขี้โม้น่ะ

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)Nameเรื่องราวแห่งตรอก Toki (I)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
DescriptionTengu ผู้ยิ่งใหญ่เป็นคนที่โหดเหี้ยมและเย่อหยิ่งจองหอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากดื่มเหล้า —— คำอธิบายทางประวัติศาสตร์ของทานูกิ
เรื่องราวของ Yoichi

เท็งงุมีชื่อว่า "Yoichi" อาศัยอยู่ในตรอกเล็กๆ ที่มีชื่อว่า "ตรอก Toki" ใน Hanamizaka เธอเช่าร้านขายเหล้า ดำรงชีวิตอย่างเรียบง่ายอยู่ที่นั่น

ถ้าจะเรียกให้ดูดีหน่อย ก็ต้องเรียกว่า "เรียบง่าย" แต่ความเป็นจริงแล้ว "เหลวแหลก ไม่เป็นท่า" น่าจะสอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่า

ตามหลักการแล้ว คนที่ติดเหล้า มักจะมีความเข้าใจในเหล้า โยไกเองก็เช่นกัน
แต่พูดตามจริง Yoichi ไม่เข้าใจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่นิดเดียว แถมยังไม่มีหัวด้านการค้าอีกด้วย ถึงจะใช้ชีวิตอย่างสันโดษอยู่บนโลกมนุษย์ เธอก็ไม่เคยทิ้งนิสัยแย่ ๆ ของเท็งงุเลย เช่น หาเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับโยไกตัวอื่น, ลักพาตัวมนุษย์ที่ยังเป็นเด็ก, อาละวาดในงานเทศกาลทั้งวันทั้งคืน หรือไม่ก็แอบเข้าไปในโรงละครโยไม่สนใครหน้าไหน แล้วคิดว่าตัวเองรับบทเป็นเท็งงุ แล้วเริ่มลงไม้ลงมือกับนักแสดงตัวหลัก... เรื่องแบบนี้ ให้เล่าทั้งวันก็ไม่หมด
หากไม่ใช่เพราะเธอเป็นที่เคารพ นับหน้าถือตาในหมู่โยไก และมีมิตรสหายอยู่ในโลกมนุษย์มากมาย Yoichi ก็คงจะถูกฮีโร่สักคนจัดการไปนานแล้วล่ะ
แต่ไม่ว่าจะเป็นโยไก หรือมนุษย์ปุถุชนที่อาศัยอยู่บนตรอก Toki ต่างให้ความสำคัญกับเธอมาก และท่าน Gongen ก็ไม่เคยเห็นว่าเธอจะก่อเรื่องใหญ่ จึงไม่ได้คิดลงโทษเธออย่างจริงจัง หรือคุมประพฤติเธอ

ถึงจะเย่อหยิ่ง และไม่เอาไหนมาตั้งแต่เกิด แต่ในฐานะที่เป็นโยไกผู้ยิ่งใหญ่ที่ต่างจากมนุษย์ปุถุชน (เธอเรียกตัวเองแบบนี้) Yoichi ก็ไม่เคยตระหนี่ในสิ่งของนอกกาย พอมีเงินหน่อย ก็เอาไปซื้อเหล้า หรือไม่ก็ซื้อนิยายที่สำนักพิมพ์ Yae แต่ส่วนใหญ่พลิกได้ไม่กี่หน้าก็โยนทิ้งออกไปทางหน้าต่างแล้ว ดังนั้น บ้านของเธอจึงรกอย่างกะรังหนู

พูดง่าย ๆ ก็คือ สำหรับเธอแล้ว สิ่งของมีค่าทุกอย่างบนโลกมนุษย์ไม่มีสิ่งใดที่ควรค่าต่อการเก็บไว้... แต่มีสิ่งหนึ่งที่เป็นข้อยกเว้น ซึ่งก็คงจะเป็นพัดกระดาษสีทอง ที่เสียบอยู่ที่เอวของเธอตลอดเวลา

เดิมที เผ่าเท็งงุเป็นปีศาจที่ออกเดินทางไปยังโลกต่าง ๆ และการนำของที่ระลึกจากสงครามที่มีประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจมาพกไว้กับตัว จึงไม่ใช่เรื่องแปลก พัดกระดาษอันนี้ก็เช่นกัน
ในคืนที่แสงจันทร์งดงามคืนหนึ่ง Yoichi ที่กำลังเมาได้ที่ พร้อมกับปกคอเสื้อเปิดกว้างได้โม้เรื่องของเธอให้ฉันฟัง...

เห็นเธอเล่าว่า ในหนึ่งในโลกที่เธอเคยไป ตอนนั้น เธอแปลงร่างเป็นมือธนูหนุ่ม มีหน้าที่รับใช้โชกุนที่หยิ่งผยองเหมือนเธอ ภายใต้บังคับบัญชาของโชกุน เธอ หรือ "เขา" น่าจะเหมาะสมกว่า เคยใช้วิชาธนูขั้นเทพจัดการศัตรูด้วยความภาคภูมิใจมาแล้วนักต่อนัก ซึ่งนักรบมนุษย์ปุถุชนลงพุงที่พ่ายแพ้ต่อ "เขา" บ้างก็เป็นทานูกิ ที่แปลงร่างเป็นนินจาจอมกะล่อน แม้แต่ Jikininki ตัวอ้วนใหญ่ ก็สู้ธนูของ Yoichi ไม่ได้

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า สมกับที่เป็นทหารยอดฝีมือจริง ๆ! สายตารวดเร็วดั่งสายฟ้า เสมือนเท็งงุผู้ยิ่งใหญ่ไม่มีผิด!"
สมัยนั้น โชกุนที่กำลังหลงระเริงมักอ้าปากหัวเราะเสียงดังแบบนี้ ช่างไร้มารยาทเสียจริง
ตั้งแต่วันนั้นมา Yoichi ได้สร้างผลงานให้โชกุนมากมาย ฆ่าปีศาจ และมนุษย์ปุถุชนโชคร้ายจำนวนไม่น้อย ซึ่งมีทั้งเรื่องจริง และเท็จ ส่วนเรื่อที่เธอโม้ขึ้นมาเองจะมีกี่เรื่องก็คงไม่จำเป็นต้องพูดถึง แต่เรื่องที่ทำให้ Yoichi ดังเป็นพลุแตก ก็เห็นจะเป็นสงครามครั้งสุดท้ายในแดนต่างโลกที่เธอได้ใช้เวลาอยู่ที่นั่นนับร้อยปี

สงครามทางน้ำครั้งนั้น โชกุน และกองโจรต่อสู้กันอย่างดุเดือดในช่องแคบ ท่ามกลางมรสุม ทั้งสองฝ่ายระดมพลมอนสเตอร์ราวแปดล้านตน และอาจมีมากกว่านั้นอีกแปดล้านตนมาลงศึกครั้งนี้ ในส่วนของซามูไรที่เป็นมนุษย์นั้นแทบจะนับจำนวนไม่ได้ อย่างน้อยน่าจะเป็นสิบล้านคน นอกจากนี้ เรือที่จมลงในศึกครั้งนี้ ก็มีจำนวนมากถึง 8 แสนลำ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจำนวนคนที่ล้มตายเลย สถิติข้อมูลที่น่าทึ่งเหล่านี้ เป็นผลงานที่ฉันช่วยรวบรวมจากคำบอกเล่าของ Yoichi ที่นั่งอาเจียนอยู่ริมหน้าต่าง

ไม่ต่างอะไรกับเรื่องราวสงครามอื่น ๆ ที่เคยได้ยินมา ทหารทั้งสองฝ่ายกำลังอยู่ในสถานะเข้าตาจน ฆ่าแกงกันอย่างเลือดเย็น มหาสมุทรจากที่เคยมีสีฟ้าใส ก็กลายเป็นสีแดงฉาน ส่วนพวกโชกุนที่ขี้โมโห ก็กำลังประจันหน้ากันอย่างดุเดือดแบบไม่มีใครยอมถอยทัพกลับบ้านก่อน

จนในคืนหนึ่ง คืนที่แสงจันทร์ผุดผ่อง อากาศเย็นสบาย มีเรือเล็กลำหนึ่งค่อยๆ พายออกมาจากฝั่งศัตรู มีเงาของคน ๆ หนึ่งอยู่บนเรือ ค่อย ๆ ลอยออกมาเหมือนกับเงาที่สะท้อนอยู่ในน้ำ และยังมีเสาธงส่องประกาย พร้อมกับพัดกระดาษที่แขวนอยู่ด้านบนออกมาให้เห็น มันกระทบกับแสงวิบวับ รับกับแสงจันทร์

"อ๊ากกกก น่าโมโหชะมัด! ท้าทายกันถึงขนาดนี้ จะให้ฉันทนอยู่เฉย ๆ ได้ยังไง!"
โชกุนหรี่ตามอง เห็นพัดสีทองเป็นประกายอยู่ไกล ๆ จึงเดือดดาลขึ้นมาทันที

Yoichi ไม่เข้าใจว่าเหตุใดความมั่นใจในตนเองของโชกุนถึงเปราะบางเช่นนี้ แต่ขณะเดียวกัน ก็ขี้เกียจจะทำความเข้าใจมนุษย์ปุถุชนที่ต้อยต่ำเช่นนี้ เธอในตอนนี้ ไม่สิ ต้องเป็น "เขา" กำลังใช้สายตาในแบบเท็งงุผู้ยิ่งใหญ่ เพ่งไปยังเงาคนที่อยู่บนเรือเล็กลำนั้น

"เขา" มองเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งแตกต่างกับที่เคยเจอโดยสิ้นเชิง

ผ่านไปสักพัก ลูกศรดอกหนึ่งแล่นข้ามผ่านดวงจันทร์และท้องฟ้ายามค่ำคืน

"ฮ่าฮ่า เยี่ยมไปเลย!"
ไม่นานนัก เสียงชมเชยของโชกุนได้หายไปท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้คน

"ถ้าลุงทั้งสองรู้ว่าตัวเองสูญเสียอะไรไป คงจะโมโหจนอกแตกตายไปเลยมั้ง!"
Yoichi ที่ดูเมามายยิ้มหัวเราะออกมาอย่างได้ใจ ดวงตาของเท็งงุผู้ยิ่งใหญ่เป็นประกาย และสะท้อนให้เห็นถึงความต้องการอย่างเปิดเผย ช่างน่ารังเกียจเสียจริง ๆ

แท้ที่จริงแล้ว วินาทีที่ลูกศรพุ่งผ่าท้องฟ้า Yoichi ได้กระพือปีกยักษ์ บินผ่านเรือเล็กลำนั้น แล้วถือโอกาสฉกพัดสีทอง และสาวงามที่กำลังตกใจ จากนั้นก็ถือโอกาสบินออกไปจากสนามรบ ในขณะที่โชกุนกำลังด่าทออยู่
เป็นฉากเท็งงุชิงตัวสาวงามที่เด็ดจริง ๆ
ทว่า น่าเสียดาย...
"เธอน่าจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วเกิดอะไรขึ้น สาวงามคนนั้นคือปีศาจแมว Neko เธอข่วนฉันมาตลอดทางเลย..."
Yoichi แลบลิ้น และถอนหายใจด้วยความเซ็ง

"เอ้อ ใช่แล้ว ปลามะไดฤดูกาลนี้อร่อยนะ ห่อกลับไปด้วยสิ"
"อะไรกันเนี่ย ทำไมจู่ ๆ เท็งงุที่ขึ้นชื่อว่างกสุด ๆ ถึงได้เกิดใจดีขึ้นมา?"
"ฉันหมายถึงยัยแก่คนนั้นต่างหาก!"
พอเห็นสายตาของเท็งงุมองมาอย่างมีเลศนัย ฉันจึงห่อปลามะไดที่เหลือ แล้วจากไปทันที

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)Nameเรื่องราวแห่งตรอก Toki (II)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionคุณแม่เคยสอนไว้ว่า หญิงงามมารยาร้อยเล่มเกวียน เปรียบได้กับ: หญิงสาวที่งดงามดุจแสงจันทร์ แต่โฉมหน้าที่แท้จริงนั่นไม่ต่างจากปีศาจจิ้งจอกหรือปีศาจแมวบาเกะเนะโกะที่บำเพ็ญเพียรมาอย่างดี - คำอธิบายทางประวัติศาสตร์ของทานูกิ
เรื่องราวของ Osen

พอออกมาจากบ้านของ Yoichi ก็เดินเลี้ยวลัดไปตามซอย เข้าไปในถนนเล็ก ๆ เส้นหนึ่ง จนมาถึงบ้านของหญิงชราคนนั้น
ท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด ดวงจันทร์ได้เคลื่อนไปยังจุดสูงสุด เหล่าปีศาจแมว Neko ทั้งหลายได้ตื่นขึ้น
มนุษย์ปุถุชนเล่าว่า ปีศาจแมวที่บำเพ็ญนับร้อยนับพันปี สามารถแปลงร่างเป็นสาวน้อย ล่อลวงคนอื่นให้ไปทำอะไรโง่ๆ ได้ หรือจะตามหานักเดินทางเพื่อล้างแค้น หรือตอบแทนบุญคุณก็ได้เช่นกัน แต่อันที่จริง เป็นเพียงความปรารถนาของมนุษย์ปุถุชนเพียงฝ่ายเดียว
ปีศาจแมวจะแปลงร่างเป็นสาวน้อยในยามโกรธจัดเท่านั้น ส่วนใหญ่แล้วพวกมันจะแปลงร่างเป็นหญิงชรา เพราะรูปลักษณ์แบบนี้สอดคล้องกับความหลักแหลมของพวกเธอมากกว่า แถมยังสามารถใช้ความชรา ตบตาคนที่ผ่านไปมาได้

"ไม่ใช่ของฟรีนะจะบอกให้!"
เมื่อเงยศีรษะขึ้นมาตามเสียง ก็มองเห็นสาวน้อยที่รออยู่บนหลังคานานแล้ว ความมืดบดบังใบหน้าของเธอที่ดูเหมือนจะยิ้ม แต่ก็ไม่ยิ้ม มีเพียงดวงตาทั้งสอง สะท้อนแสงสีเขียวทอง ส่วนแสงจันทร์ก็ทอดผ่านไหล่ที่เปลือยครึ่งหนึ่งของเธอไปยังแขนเสื้อ ซ้ำยังค่อย ๆ กระจายผ่านช่องว่างของชายเสื้อลงไปยังขาเรียวยาวของเธอ ส่วนมือของเธอก็กำลังเล่นเคนดามะโดยไม่สนใจสิ่งที่อยู่รอบข้าง

ยายแก่คนนี้ต้องโมโหสุด ๆ แน่ ๆ...

"เธอเนี่ยนะ วันนี้มาสายอีกแล้ว"
"ใช่แล้ว ขะ... ขอโทษด้วยนะ"

ยุงตัวแล้วตัวเล่า บินชนโคมไฟกระดาษ แสงจากโคมไฟกระดาษก็กะพริบตอบรับเป็นระยะๆ
แสงจันทร์นำมาซึ่งลมชื้นๆ ทำให้เสียงของจักจั่นเงียบลงในไม่นาน

เธอสยายผม หมุนด้ายในมือพร้อมรอยยิ้มที่มีเลศนัย หรือจะเรียกว่าน่ากลัวก็ได้
ถึงฉันจะเป็นทานูกิที่สนิทชิดเชื้อกับเท็งงุ แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าปีศาจแมวที่เดาใจได้ยาก ก็ต้องมีมารยาทสักหน่อย พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องคุกเข่าขอโทษไว้ก่อน

"ไม่เป็นไร ในเมื่อมีปลามะไดสด เธอก็เข้ามาก่อนเถอะ"
ฉันพยุงตัวกลมๆ ของทานูกิกลับมานั่งท่าปกติ สาวน้อยก็ค่อยๆ แปลงร่างเป็นหญิงแก่ ด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตร
"ขอบคุณนะ คุณยาย Sen"
"เรียกฉันว่า Osen!"

ฉันรู้สึกโล่งอก
แต่ก็ยังรู้สึกว่าแปลกยังไงชอบกล

"ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า จะว่าไป ช่วงนี้เจ้าบื้อนั่นเป็นไงบ้างล่ะ?"
Osen กลืนปลาสด ๆ ทั้งตัวลงคอ กลืนลงไปทั้งตัว รวมทั้งหางด้วย

จะว่าไป เรื่องราวพันธะผูกพันระหว่างเขาและเท็งงุก็ตลกเหมือนกันนะ ถึงก่อนหน้านี้ Yoichi จะเล่าเรื่องตลกนี้ผ่านมุมมองของเธอ แต่จากปากของปีศาจแมวแล้ว มันก็กลายเป็นอีกเรื่องราวหนึ่ง

Osen ไม่ได้เกิดในโลกของเรา เธอมาจากโลกที่มนุษย์บ้าคลั่งมากกว่านี้
ค่ำคืนหนึ่ง ณ ป่าไผ่ Osen ที่อายุยังน้อยเคยถูกนักบวชพเนจรจับตัวไป หลังจากผ่านมือมาหลายมือ สุดท้ายเธอก็ถูกโชกุนซื้อตัวไปเพื่อให้เป็น "Obake-Neko"
เธอไม่มีความทรงจำในช่วงเวลานั้นเลย เพียงแต่สงสัยว่าทำไมมนุษย์ปุถุชนที่เป็นขุนนาง ถึงได้ชอบยั่วโมโหเธอ และชอบมาเล่นกับเธอ วันๆ เอาแต่ให้เธอข่วนศัตรูทั้งหลายกลายเป็นชิ้น ๆ อาจเป็นเพราะต้องการหาความสนุก พวกเขาบังคับให้เธอเล่นเกมน่าเบื่อ ที่มีแต่พวกเขารู้สึกสนุกเท่านั้น
วันเวลาเหล่านั้น น่าเบื่อจนแทบจะทำให้คนเป็นบ้า แต่โยไกมีอายุยืนยาว จึงมีความอดทนสูงกว่ามนุษย์ปุถุชนมาก

ต่อมา โชกุนของเธอและโชกุนของฝ่ายต่อต้านได้เริ่มต่อสู้กัน Osen จึงแปลงร่างเป็น "นินจา"

"เรื่องราวตอนนี้น่าเบื่อยิ่งกว่าเดิมเสียอีก......"
Osen เล่าไปหาวไป ดูเหมือนใกล้จะหลับเต็มที

จากนั้น ในค่ำคืนของสงครามทางน้ำ ท่านโชกุนได้คิดแผนการอันชาญฉลาดออกมาได้ ---
ท่านโชกุนสั่งให้ Osen แปลงกายเป็นสาวสูงศักดิ์รูปงามไปนั่งอยู่บนเรือ ในมือถือพัดสีทอง หากมีฝ่ายต่อต้านกล้าเข้ามาใกล้ ก็จะถูก Bake-Neko ตัวนี้สั่งสอนอย่างหนัก

ทว่าต่อมา Yoichi อยู่ในเรือของฝั่งต่อต้าน......
"ต่อมา จู่ ๆ เจ้าบื้อก็ตะโกนเสียงดัง แล้วพุ่งเข้ามาโหวกเหวกโวยวาย จะยิงพัดอันนั้น"
แล้วเจ้าเท็งงุนั่นก็......
"......ลื่นไถล ตกลงไปในทะเลทันที"
หญิงชราที่มีใบหน้าแมวหัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้

"คืนนั้นเธอดื่มไปเยอะมาก คงจะคิดว่าแหวกว่ายอยู่บนพายุคลื่นโหมกระหน่ำ แต่ความจริงคืนนั้นดวงจันทร์ส่องแสงจ้า ไม่มีแม้แต่ลมด้วยซ้ำ"
"แต่ทว่า ฉันไม่ได้เจอสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจแบบนี้หลายร้อยปีแล้ว ก็เลยให้รักษาหน้าเธอไว้โดยการกลั้นหัวเราะ และกระพือพัดของฉันแทน... แต่ผลปรากฏว่า มีเสียงโหวกเหวกโวยวายดังมาจากเรือของฝ่ายตรงข้ามอีกแล้ว คิดแล้วก็ขำจริง ๆ......"

ต่อมา เท็งงุก็ได้สยายปีกทะยานขึ้นไปบนฟ้า แล้วพุ่งใส่สาวงานผู้สูงศักดิ์คนนั้น ราวกับเมฆดำที่กลืนกินดวงจันทร์...
"ทันใดนั้น เธอก็ตกลงไปในทะเลเหมือนกับเม่นตัวหนึ่ง ส่วนฉันก็ไม่สามารถกลั้นหัวเราะได้อีกแล้ว"
จากนั้น Osen ก็หัวเราะดังลั่น พร้อมช่วยดึงเท็งงุโชคร้ายขึ้นมาจากทะเล โดยหนีบเขาไว้ที่รักแร้ แล้วทั้งหัวเราะ ทั้งกระโดดบินข้ามเรือรบของทั้งสองฝ่าย ทำให้โชกุนของทั้งสองฝ่ายเดือดดาลเป็นที่สุด
ว่ากันว่า เธอกระโดดข้ามเรือทีเดียวพร้อมกัน 8 ลำ แล้วก็หายวับไป ปีศาจแมวได้ทิ้งเสียงหัวเราะเอาไว้ แม้สงครามจะจบลงแล้วก็ตาม

"ฉันหัวเราะไม่หยุด ซ้ำยังข่วนเขาอย่างแรงด้วย... แต่เมื่อนึกถึงเขาในตอนนั้น ก็ยิ่งทำให้ฉันข่วนไป หัวเราะไป ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า..."
ปีศาจแมวในร่างยายแก่หัวเราะไม่หยุด

"ต่อมา ฉันถูกเธอพามายังโลกใบนี้ ทำเหมือนฉันเป็นของรางวัล!"
"ปุ๊ง" ใบหน้าของยายแก่กลายเป็นสาวน้อยอารมณ์บูด ที่น่าตลกที่สุดคือ ใบหน้าของเธอยังมีสีแดงก่ำจากการหัวเราะจนท้องแข็ง
"ฉันไม่ใช่ของรางวัลอะไรพวกนั้นสักหน่อย!"

"แต่ว่าไปแล้ว นี่อาจเป็นเหตุผลแท้จริง ที่เธอไม่กล้ามาเจอฉันก็ได้"
ปีศาจแมวในร่างสาวน้อยถอนหายใจ แล้วก็หัวเราะขึ้นมาอีก

"เธอก็ควรไปได้แล้วนะ เปิดประตูไว้ ค่อยมาใหม่เมื่อจันทร์เต็มดวง"
"แล้วก็ช่วยนำเสื้อกันฝนตัวนี้ไปให้เพื่อนเก่าของฉันด้วย"

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)Nameเรื่องราวแห่งตรอก Toki (III)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionว่ากันว่าหากทำให้สาวเรียกฝนต้องเสียน้ำตา จะนำมาซึ่งความเศร้าโศกที่ไม่อาจหลุดพ้นได้ – คำอธิบายทางประวัติศาสตร์ของทานูกิ
เรื่องราวของคุณยาย Ame

เมื่อออกจากบ้านของ Osen ก็เดินลัดเลี้ยวไปตามตรอก จนถึงสวนที่เปียกชื้น และมาถึงบ้านของคุณยาย Ame
ในสวนอันสง่างาม แม้แต่เสียงของจิ้งหรีดก็ยังเงียบลง มีเพียงอ่างน้ำพุหินที่ส่งเสียงเบา ๆ เคล้ากับจังหวะเสียงของน้ำพุกระบอกไม้ไผ่
ท่ามกลางภูเขาและผืนป่าที่เป็นอิสระ หญิงสาวที่สามารถเสกให้หมอกกลายเป็นสายฝนเป็นสหายกับทานูกิและจิ้งจอก
โดยธรรมชาติแล้ว โยไกอย่างพวกเราไม่เหมือนกับมนุษย์ เราไม่มีปัญหาซับซ้อนให้กลุ้มใจ ไม่มีการแบ่งแยกชนชั้น แต่ท่ามกลางภูเขาที่ปกคลุมด้วยหมอกและสายฝน Ameonna ที่พูดจาอย่างนุ่มนวลมักจะได้รับความเคารพยกย่องมากขึ้น
เพียงแต่ว่าต่อมา ทุกคนก็ยอมจำนนต่อท่าน Gongen ผู้ยิ่งใหญ่ ช่วงเวลาที่ดีของมนุษย์มาถึงแล้ว เหล่าโยไกก็ต้องไปหลบซ่อนตัวตามที่ต่าง ๆ หรือต้องถูกขับไล่และปราบปราม... คุณยาย Ame ย้ายไปที่ตรอก Toki ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท่าน Guuji จากศาลเจ้า Grand Narukami จึงมอบคฤหาสน์หลังนี้ให้กับเธอเพราะความสงสาร
ช่างน่าสงสัยจริง ๆ ว่าความสูญเสียและความโศกเศร้าแบบไหนกันที่ทำให้ท่าน Guuji ดูแลคุณยาย Ame เป็นพิเศษแบบนี้...

ฉันแวะพักที่สวนสักครู่นึง และมองดูเงาจันทร์เสี้ยวที่กระเพื่อมในสระน้ำ ฉันได้ยินเสียงของเธอลอยมากับสายลมเย็น ๆ ในยามค่ำคืน

"ขออภัยที่ให้ท่านรอนานนะ"
พอหันกลับไป ฉันก็เห็น Ameonna ยืนอยู่ข้างประตู แสงจันทร์ขาวนวลส่องบนร่างของเธอ ชุดกระโปรงยาวสีขาวของเธอทอประกายระยิบระยับ แต่ร่างอันผอมบางของเธอกลับมีออร่าของความเศร้าโศกในอดีต

ดังนั้นฉันจึงก้มหน้าลงแล้วรีบยื่นเสื้อคลุมที่ Osen มอบให้ฉันให้กับเธอ ฉันไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาสีเทาคู่นั้น
มีคำร่ำลือกันในหมู่มนุษย์ว่า ดวงตาของ Ameonna ผู้เศร้าโศกจะเป็นขาวอมเทาเหมือนหินอ่อนที่ดูคล้ายกับคนจมน้ำ คนที่กล้ามองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น จะหลงทางอยู่ในหมอกฝนที่ไม่มีวันสลายไปตลอดกาล
แน่นอนว่า เรื่องพวกนี้มันก็เป็นแค่ตำนานไร้สาระของมนุษย์เท่านั้น แต่มารยาทพื้นฐานอย่าง "อย่าสบตาที่เศร้าโศกของ Ameonna" มันเป็นเหมือนกฎที่ไม่ได้เขียนไว้ในหมู่โยไก

"ขอบใจนะ"
เสียงของคุณยาย Ame นั้นนุ่มนวลและอ่อนโยนเหมือนเคย ราวกับน้ำค้างในสายหมอกยามเช้า

เธอไม่ได้เชิญฉันเข้าไปข้างใน และไม่ได้แบ่งปันเรื่องราวอะไรกับฉัน
เธอแค่ยื่นกล่องไม้กล่องหนึ่งให้ฉัน แต่ฉันก็เข้าใจเป็นอย่างดี
ดังนั้นฉันจึงออกไปจากสวนอย่างเงียบ ๆ ในขณะที่แสงจันทร์ยังส่องสว่างอยู่

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)Nameเรื่องราวแห่งตรอก Toki (IV)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionความโศกเศร้าของมนุษย์ก็เหมือนกับการไม่รู้จักตัวเอง ส่วนปีศาจนั้น พวกมันไม่เคยต้องกลุ้มใจเพราะความโศกเศร้าเช่นนี้เลย – คำอธิบายทางประวัติศาสตร์ของทานูกิ
เรื่องเล่าของ Gonbei

Gonbei อายุเจ็ดสิบหกปีแล้วในปีนี้ และเป็นมนุษย์ปุถุชนเพียงคนเดียวที่อาศัยอยู่ที่ Toki
เขาเคยทำงานเป็นชาวนา เคยเป็นซามูไรและเคยเป็นช่างมาก่อน
กล่องที่อยู่ในมือของฉันคือผลงานของเขา กล่องที่มีผิวแล็กเกอร์สีดำเรียบฝังด้วยเปลือกหอยมุกหลากสี ซึ่งเป็นงานฝีมือที่เรียนรู้จากชาวประมงใน Watatsumi

"ขอบคุณที่ช่วยฉันนะ ลำบากเธอแล้วล่ะ"
ชายชราที่อยู่ตรงหน้าค่อย ๆ โค้งตัวและก้มหัวลง
แม้ว่าฉันจะคิดว่ามนุษย์ควรจะมีมารยาทเช่นนี้ต่อพวกปีศาจ แต่ฉันก็ยังรู้สึกสงสารต่อความเศร้าเสียใจของเขา

ตามคำบอกเล่าของ Gonbei ซึ่งตรงกันข้ามกับตำนานที่โด่งดัง ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นเพื่อนสนิทกับ Ameonna ที่ชอบเดินเตร่ไปตามภูเขาและป่าไม้
แต่ว่าในตอนนั้น Gonbei ที่ยังคงเป็นเด็กหนุ่มกำลังพยายามที่จะนำฝนมาสู่ทุ่งนาที่แห้งแล้งในบ้านเกิดของเขา ดังนั้น เขาจึงฟังคำพูดของผู้อาวุโสในหมู่บ้านและตรงไปที่ภูเขาเพื่อขอความช่วยเหลือจาก Ameonna
แต่ในตอนนั้นคุณยาย Ame ไม่ได้อายุน้อยอีกต่อไปและตระหนักดีถึงความเปลี่ยนแปลงมากมายในโลกนี้ แต่สิ่งมีชีวิตในป่าเขานั้นเรียบง่ายและไร้เดียงสามากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับพวกมนุษย์

อืม แล้วหลังจากนั้น Gonbei ในวัยหนุ่มก็ได้ทำความผิดครั้งใหญ่ที่สุดจะพรรณนาออกมาในการหลอกลวงสัตว์ในขุนเขาและท้องทะเล แม้ว่าจนถึงทุกวันนี้ เขายังคงยืนกรานว่าการหลอกลวงนั้นคือการกอบกู้บ้านเกิดของเขา

และหมู่บ้านของเขาตั้งหน้าตั้งตารอปีฤดูเก็บเกี่ยวที่ยากจะได้พบเจอเนื่องจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักในภายหลัง
หลังจากนั้นเป็นต้นมา Gonbei ผู้ซึ่งละอายใจอย่างยิ่งได้หลบเลี่ยงออกมาภูเขาและมาอาศัยอยู่ในเมืองเป็นเวลานาน

"ต้องขออภัยจริง ๆ " มนุษย์ที่แก่ชราก้มศีรษะลงแต่ไม่ยอมรับกล่องไม้นั้นไว้
ฉันถือโอกาสเดินออกมาจากบ้านของเขาในขณะที่เมฆดำยังไม่บังแสงจันทร์จนมืดมิด

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)

เรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)
เรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)Nameเรื่องราวแห่งตรอก Toki (V)
Type (Ingame)ไอเทมเควสต์
FamilyBook, เรื่องราวแห่งตรอก Toki
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Descriptionช่วงครึ่งเวลาที่น่าเสียดาย บางทีหลังจากนี้อาจจะมีเรื่องราวที่น่าสนใจกว่าก็เป็นได้?
บทกลาง

ว่ากันว่าในอดีต สมัยที่มนุษย์ปุถุชนยังอ่อนแอ มีอายุขัยสั้น และยังไม่เคยข้ามมหาสมุทรมา Inazuma นั้นเป็นดินแดนของทานูกิ
ทานูกิมีนิสัยขี้เกียจ จิตใจรวนเร ไม่เคยห่วงว่าวันพรุ่งนี้ของตัวเองจะเป็นยังไง และไม่เคยเก็บปัญหาไว้ให้ปวดสมองจนถึงวันรุ่งขึ้น ทำให้ตอนนั้น Inazuma เปรียบเสมือนสวนสนุกของทานูกิ ทุกๆ วันคืนงานเทศกาลที่แสนรื่นเริง

อย่างน้อย คนเฒ่าคนแก่ของตระกูลทานูกิ ก็เล่ากันมาแบบนี้

แต่พอพวกจิ้งจอกข้ามมหาสมุทรมา ก็ได้เปิดฉาก ทำสงครามกับตระกูลทานูกิเป็นเวลานับพันปี ทั้งสองฝ่ายได้รับความเสียหายหนัก แต่สุดท้ายแล้ว ก็ต้องหันมาเจรจากัน แม้ถึงตอนนี้ ทานูกิจะยังปากแข็ง ไม่เคยยอมรับว่าเป็นฝ่ายแพ้ แต่ก็ตัดต้น Thunder Sakura ที่มีขนาดใหญ่มโหฬารให้เผ่าจิ้งจอกไปแล้ว

แต่อย่างไรเสีย จิ้งจอกก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่กะล่อน และรวนเรไม่แพ้กัน เล่ากันว่าในสงครามนับพันปีครั้งนั้น ก็มีจิ้งจอก และทานูกิโชคร้ายจำนวนไม่น้อย ที่ผันเวียนเปลี่ยนแปลงกระบวนท่าการต่อสู้ของตัวเองจนตาลายเพราะวิชาแปลงร่างนี้ ลืมไปว่าตัวเองเป็นใคร และอยู่ฝ่ายใด

ดังนั้น จึงมีมนุษย์ปุถุชนที่ไร้ซึ่งความสามารถ กำเนิดเกิดขึ้นจากมอนสเตอร์ที่กำลังงงงวยเหล่านี้

เดินเตร่ไปตามถนนที่คดเคี้ยวและตรอกซอกซอย ในขณะเล่าเรื่องราวที่มีมาช้านานของตระกูลทานูกิ
แต่ในท้ายที่สุดแล้วก็ไม่เจอโรงเตี๊ยมไหนเปิดอยู่เลย

คงถึงเวลากลับแล้วสินะ
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ฉันก็ยืนขึ้นและยืดเส้นยืดสายตรงหน้าแผงโซบะของลุง Kitsune

ทันใดนั้นก็ได้กลิ่นที่คุ้นเคยลอยโชยมา

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton