
Table of Content |
Stats |
Skills |
Skill Ascension |
Related Items |
Gallery |
Sounds |
Quotes |
Stories |
Stats
Lv | HP | Atk | Def | CritRate% | CritDMG% | Bonus CritDMG% | Materials | Total Materials |
1 | 967 | 27.93 | 62.76 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
20 | 2508 | 72.45 | 162.8 | 5.0% | 50.0% | 0% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
20+ | 3336 | 96.4 | 216.62 | 5.0% | 50.0% | 0% | ||
40 | 4992 | 144.24 | 324.13 | 5.0% | 50.0% | 0% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
40+ | 5581 | 161.25 | 362.36 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | ||
50 | 6421 | 185.53 | 416.9 | 5.0% | 50.0% | 9.6% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
50+ | 7206 | 208.21 | 467.89 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
60 | 8055 | 232.73 | 522.99 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
60+ | 8644 | 249.75 | 561.23 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ||
70 | 9501 | 274.49 | 616.83 | 5.0% | 50.0% | 19.2% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
70+ | 10089 | 291.51 | 655.07 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | ||
80 | 10956 | 316.53 | 711.3 | 5.0% | 50.0% | 28.8% | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
80+ | 11544 | 333.55 | 749.54 | 5.0% | 50.0% | 38.4% | ||
90 | 12417 | 358.77 | 806.21 | 5.0% | 50.0% | 38.4% |
Skills
Active Skils
![]() | Havoc: Sunder | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
โจมตีต่อเนื่องมากสุด 5 ครั้ง ใช้พลังกายปริมาณหนึ่ง เพื่อขว้างหอกคริสตัลหมุน และสร้างความเสียหายแก่ศัตรูที่อยู่ตรงหน้า กระโจนจากกลางอากาศลงมายังพื้นดิน เพื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการโจมตี โดยจะสร้างความเสียหายวงกว้างเมื่อลงถึงพื้น | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
![]() | Havoc: Warp | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
เลียนแบบวิธีการต่อสู้ของ The Foul ทำให้เกิดเอฟเฟกต์ที่แตกต่างกันไปตามการกดและกดค้าง Skirk ได้รับ Skirk ได้รับ Serpent's Subtlety 45 หน่วย และเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วแบบต่อเนื่อง ภายใต้สถานะนี้ Skirk จะมีความสามารถในการต้านทานการหยุดชะงักเพิ่มขึ้น ในช่วงเวลาดังกล่าว Skirk สามารถควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว และทำการเคลื่อนที่บนผิวน้ำได้ ซึ่งสามารถยุติสถานะเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วล่วงหน้าได้ ด้วยการใช้สกิลซ้ำอีกครั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
![]() | Havoc: Ruin | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ท่าไม้ตายของ Skirk ไม่ได้อาศัยพลังงานธาตุ แต่จะอาศัย เมื่อ Skirk มี Serpent's Subtlety อย่างน้อย 50 หน่วย Skirk จะใช้ Serpent's Subtlety ทั้งหมดเพื่อปล่อยท่าไม้ตาย ทำการฉีกกระชากมิติ และฟันโจมตีอย่างต่อเนื่องด้วยความเร็วสูง สร้าง เมื่อ Skirk อยู่ในโหมด สามารถปล่อยท่าไม้ตายได้โดยไม่ต้องใช้ Serpent's Subtlety หลังจากปล่อย Skirk จะได้รับเอฟเฟกต์ "All Shall Wither" และเอฟเฟกต์นี้จะคงอยู่จนกว่าโหมด Seven-Phase Flash จะสิ้นสุดลง; หลังจากปลดล็อกพรสวรรค์ติดตัว ในช่วงเวลาต่อเนื่องของเอฟเฟกต์ "All Shall Wither" ในทุก 0.1 วินาที หลังจากที่ Skirk ใช้การโจมตีปกติถูกศัตรู จะเพิ่มความเสียหายที่เกิดจากการโจมตีปกติในครั้งนี้; หากปล่อย เอฟเฟกต์นี้จะหายไปเมื่อเกิดครบ 10 ครั้ง | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
Passive Skills
![]() | Mutual Weapons Mentorship |
เมื่อตัวละครทั้งหมดในทีม มีประเภทของธาตุเป็น |
![]() | Reason Beyond Reason |
เมื่อตัวละครในทีมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียง ทำให้เกิดปฏิกิริยาแช่แข็ง, นำไฟฟ้า, กระจายธาตุน้ำแข็ง หรือตกผลึกธาตุน้ำแข็งแก่ศัตรู จะสร้างรอยแยกมิติขึ้นที่บริเวณใกล้เคียงกับศัตรู โดยที่เอฟเฟกต์นี้ จะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง ในทุก 2.5 วินาที และในสนามจะมีรอยแยกมิติที่สร้างขึ้นโดย Skirk ได้มากสุด 3 อัน Skirk สามารถดูดซับรอยแยกมิติที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงได้ด้วยวิธีต่อไปนี้: ·เมื่อการชาร์จโจมตีในโหมด ·เมื่อใช้ท่าไม้ตายพิเศษ ·เมื่อกดค้างเพื่อปล่อยสกิลธาตุ ทุกครั้งที่ดูดซับรอยแยกมิติ 1 อัน Skirk จะได้รับ |
![]() | Return to Oblivion |
เมื่อตัวละครในทีมที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงที่มีประเภทของธาตุเป็น ตัวละครแต่ละตัวจะสามารถทำให้ Skirk ได้รับเอฟเฟกต์ Death's Crossing ด้วยวิธีนี้ได้มากสุด 1 ชั้น เอฟเฟกต์ Death's Crossing แต่ละชั้นจะทำให้การโจมตีปกติภายใต้โหมด |
Constellations
![]() | Far to Fall |
เอฟเฟกต์พรสวรรค์ติดตัว ต้องปลดล็อกพรสวรรค์ติดตัว Reason Beyond Reason ก่อน |
![]() | Into the Abyss |
หลังจากใช้สกิลธาตุ เมื่อใช้ท่าไม้ตาย นอกจากนี้ หลังจาก Skirk ใช้ท่าไม้ตายพิเศษ |
![]() | Serendipitous Sin |
เพิ่มเลเวลสกิลของท่าไม้ตาย เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
![]() | Fractured Flow |
เอฟเฟกต์พรสวรรค์ติดตัว ต้องปลดล็อกพรสวรรค์ติดตัว Return to Oblivion ก่อน |
![]() | End of Wishes |
เพิ่มเลเวลสกิลของสกิลธาตุ เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15 |
![]() | To the Source |
ทุกครั้งที่ Skirk ดูดซับรอยแยกมิติ 1 อันจากเอฟเฟกต์ของพรสวรรค์ติดตัว ต้องปลดล็อกพรสวรรค์ติดตัว "Reason Beyond Reason" ก่อน ·เมื่อปล่อยท่าไม้ตาย ·เมื่อ Skirk ทำการโจมตีปกติเมื่ออยู่ในโหมด Seven-Phase Flash หากการโจมตีครั้งที่สามหรือครั้งที่ห้าถูกศัตรู จะใช้ ·เมื่อ Skirk ได้รับความเสียหาย ในขณะที่อยู่ในโหมด Seven-Phase Flash จะใช้ |
Skill Ascension
Gallery
Sounds
Quotes
Audio Language:
Title | VoiceOver |
พบกันครั้งแรก... | |
แชท - Abyss | |
แชท - ทำสมาธิ | |
แชท - จุดหมาย | |
ในเวลาที่ฝนตก... | |
ในเวลาที่ฟ้าผ่า... | |
ในเวลาที่หิมะตก... | |
ในเวลาที่ลมพัดแรง... | |
อรุณสวัสดิ์... | |
สวัสดีตอนเที่ยง... | |
สวัสดีตอนเย็น... | |
ราตรีสวัสดิ์... | |
เกี่ยวกับ Skirk - อ่านหนังสือ | |
เกี่ยวกับ Skirk - ฝึกดาบ | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับเรา - การฝึกฝน | |
เกี่ยวกับเรา - เป้าหมาย | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ "พลังแห่ง Abyss"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
ต้องการจะแชร์อะไร... | |
ข้อมูลที่น่าสนใจ... | * สำเร็จเนื้อเรื่อง "เสียงกระซิบของดวงดาวและราตรี" |
เกี่ยวกับ Surtalogi... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Alice - คำสัญญา | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Alice - ขอบคุณ | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Dainsleif... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Dori... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Tartaglia... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
เกี่ยวกับ Neuvillette... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ "เจตจำนงแห่งดวงจันทร์"... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เกี่ยวกับ Nicole... | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Skirk - 1 | |
อยากรู้เกี่ยวกับ Skirk - 2 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Skirk - 3 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Skirk - 4 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
อยากรู้เกี่ยวกับ Skirk - 5 | * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
งานอดิเรกของ Skirk... | * สำเร็จเนื้อเรื่อง "เสียงกระซิบของดวงดาวและราตรี" |
เรื่องกลุ้มใจของ Skirk... | |
อาหารที่ชอบ... | |
อาหารที่เกลียด... | |
ได้รับของขวัญ - 1 | |
ได้รับของขวัญ - 2 | |
ได้รับของขวัญ - 3 | |
วันเกิด... | |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4 |
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป | * ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6 |
สกิลธาตุ - 1 | |
สกิลธาตุ - 2 | |
สกิลธาตุ - 3 | |
สกิลธาตุ - 4 | |
สกิลธาตุ - 5 | |
ท่าไม้ตาย - 1 | |
ท่าไม้ตาย - 2 | |
ท่าไม้ตาย - 3 | |
ท่าไม้ตาย - 4 | |
ท่าไม้ตาย - 5 | |
เปิดหีบสมบัติ - 1 | |
เปิดหีบสมบัติ - 2 | |
เปิดหีบสมบัติ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2 | |
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1 | |
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2 | |
หมดสติ - 1 | |
หมดสติ - 2 | |
หมดสติ - 3 | |
รับการโจมตีปกติ - 1 | |
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 1 | |
เข้าร่วมทีม - 2 | |
เข้าร่วมทีม - 3 |
Stories
Title | Text |
ข้อมูลตัวละคร | เธอเหมือนข่าวลือในท้องถิ่น ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ ว่ามีอยู่จริงหรือไม่... บางครั้งในร้านเหล้าตอนเที่ยงคืน ก็จะมีคนทำไม้ทำมือ พลางอวดอ้างว่า ตัวเองเคยเห็นแผ่นหลังแบบนี้ แต่กลับไม่มีใครรู้ว่า เธอเป็นใครกันแน่ ตลอดระยะเวลาอันยาวนานที่ผ่านมา Skirk ท่องไปใน Teyvat โดยพยายามหลีกเลี่ยง ที่จะผูกสัมพันธ์กับผู้คนอย่างสนิทสนม แม้แต่การสืบข่าว ก็ยังระวังแล้วระวังอีก จนกระทั่งก่อนหน้านี้ไม่นานนัก คนคนเดียวที่สามารถประเมินเธอได้ เกรงว่าคงมีเพียง... "เธอหมายถึงอาจารย์น่ะเหรอ? อาจารย์เป็นคนเงียบขรึมพูดน้อยคนนึง ต่อมาฉันก็คิดว่า... ฝีมือการทำอาหารของอาจารย์ ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ถึงกับแย่ แน่นอนว่า อาจเพราะสิ่งมีชีวิตในมิตินั้น มีกลิ่นแปลก ๆ ก็เป็นได้ ทีแรกกะว่าพอออกไปได้แล้ว จะให้อาจารย์ลองชิมไส้กรอกปีนี้ ของบ้านฉันซะหน่อย แต่สุดท้ายก็ยังไม่มีโอกาสอยู่ดี... แต่นั่นก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ จุดเด่นที่เด่นชัดที่สุดของอาจารย์ ก็คือ... ความแข็งแกร่ง และความเย่อหยิ่ง ที่คู่ควรกับความแข็งแกร่ง ของเขาด้วย! ประโยคหลังฉันไม่ได้พูดผิดหรอกนะ ฉัน Tartaglia กลายเป็น ผู้ชายที่แข็งแกร่งขึ้นทุกวัน และเพราะอย่างนี้เอง ฉันจึงตระหนักถึงความแข็งแกร่ง ของอาจารย์มากขึ้นทุกวัน ตอนนั้นอาจารย์จัดการฉัน โดยใช้มือข้างเดียวเท่านั้น ซึ่งมันก็คือ การแสดงความเย่อหยิ่งอย่างหนึ่ง แต่เมื่อเผชิญหน้ากับ คู่ต่อสู้ที่อ่อนแอแล้ว ความเย่อหยิ่งแบบนี้นี่แหละ คือความสง่างามอย่างนึง การบดขยี้อีกฝ่ายโดยตรงก็ดูเสียมารยาท แต่การลดท่าทีลงก่อน แล้วค่อยพลิกสถานการณ์กลับ ก็ดูจงใจเกินไปอีก" เวลาล่วงเลยมาถึงตอนนี้ Skirk ที่กำลังดื่มเหล้าอยู่ในร้านเหล้า ได้ยินคำวิจารณ์นี้ ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา: "ก่อนหน้านี้ก็เคยบอกไปแล้วไงว่า ฉันยังคุยกับคนที่พอมีความสามารถ ได้ตามปกติ ส่วนที่ของในรอยแยก Abyss ไม่อร่อยก็เพราะเขาเป็นคนธรรมดา ส่วนเรื่องที่ใช้แค่มือข้างเดียว... ถ้าเกิดใช้สองมือ ถึงจะเป็นการสอน แต่ฉันก็กลัวว่า จะทำแขนเขาหักเอาได้น่ะ เขายังต้องใช้ชีวิตอยู่ใน Teyvat ไม่สามารถใช้พลังแห่ง Abyss มาสร้างแขนขาให้ตัวเอง ได้เหมือนอย่างฉัน ความเย่อหยิ่งและความประมาท เป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด ยังดีที่เด็กคนนั้นรู้จักพัฒนาตัวเอง และไม่เคยคิดจะทำตัวเย่อหยิ่ง ไม่งั้นฉันคงกังวลว่าเขาคง ได้ตายอยู่ที่ไหนสักแห่งจริง ๆ แน่" |
เรื่องราวของตัวละคร 1 | "ไปเถอะ เธอไม่รอดแล้วล่ะ" "แต่ว่า ภารกิจของเราคือ..." เด็กน้อยกุมแขนข้างที่หัก และมีเลือดไหล พลางมองเงาเลือนราง ของคนสองคนที่อยู่ตรงหน้า สุดท้ายก็เห็นหนึ่งในนั้น ที่ดูเหมือนมีตำแหน่งสูงกว่าอีกคน ยื่นมือมาห้ามไม่ให้อีกฝ่ายพูด จากนั้นทั้งสอง ก็หันหลังเดินหายลับไป ชาวเผ่าของเธอ เพิ่งจะรู้เมื่อไม่นานมานี้ว่า ในจักรวาลนั้น มีอารยธรรมมากมาย เมื่อก่อนมีเพียงนักวิชาการ ไม่กี่คนเท่านั้น ที่มีโอกาสได้ติดต่อกับผู้มาจากนอกโลก ทั้งที่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหัวหน้าเผ่า ประกาศว่ามีความสัมพันธ์ ทางการค้าที่ดีกับพวกเขาแท้ ๆ แล้วทำไมตอนนี้... ไฟที่ลุกโชนเผาไหม้คานบ้าน ทว่าก่อนหน้านั้นเด็กสาว ก็หายใจไม่ออกเนื่องจากเสียเลือด ทั้งยังเจอกับความร้อน และควันอยู่แล้ว เมื่อเศษซากและไม้ที่ไหม้ ที่ทับถมอยู่เหนือศีรษะถูกยกออกไป เธอก็ได้ยินเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด เปลือกตาของเธอติดกัน เพราะคราบเลือดจนลืมไม่ขึ้น แต่เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่า มีแสงสว่างลอดเข้ามา จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้า เหยียบลงบนผืนดินที่ไหม้เกรียม ทุกย่างก้าวล้วนเหยียบลงไป บนแผ่นอิฐที่แตกหักอยู่ใต้ฝ่าเท้า ผู้มาดึงโครงสร้างที่กักขังเด็กสาวไว้ ให้คลายออกอย่างง่ายดาย จากนั้นก็จับไหล่เธอไว้ ด้วยมืออันใหญ่ยักษ์ แล้วดึงเธอออกมา การกระทำนี้ แทบจะฉีกแขนขาเธอจนหัก ความเจ็บปวดทำให้น้ำตาเธอไหลริน จนค่อย ๆ ละลายเลือดที่แห้งเกรอะกรัง เธอเองก็แปลกใจเช่นกันที่ป่านนี้แล้ว ตัวเธอยังมีน้ำหลงเหลือในร่างกายอยู่อีก แต่ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นเพียงครู่เดียว เธอก็หมดสติไปอีกครั้ง เพราะความเจ็บปวด เมื่อตื่นขึ้นมาเป็นครั้งที่สอง เธออดทอดถอนใจไม่ได้ ที่ตัวเธอยังมีโอกาสได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ท่ามกลางสายตาที่พร่ามัว ชายร่างสูงใหญ่คนหนึ่ง ก่อกองไฟขึ้นมา แล้วนั่งขัดสมาธิอยู่หน้ากองไฟนั้น โดยมีสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ รูปร่างคล้ายหนูตัวหนึ่ง กำลังขดตัวอยู่ด้านหนึ่ง อย่างหวาดกลัว นัยน์ตาสีดำ สะท้อนเปลวไฟที่ลุกโชน "ฟื้นแล้วเหรอ? อย่าได้ถามคำถาม ที่ไม่สำคัญกับการมีชีวิตอยู่ต่อไป พวกนั้นเลย เสียเวลาของเธอเปล่า ๆ" ชายหนุ่มไม่ได้หันไปมอง เพียงใช้ดาบเขี่ยกองไฟต่อไป "เธออยากตายหรืออยากมีชีวิตอยู่?" ถึงเธออยากจะถามเหลือเกินว่า ทำไมเธอยังมีชีวิตอยู่? แล้วชายคนนั้นคือใคร? แต่เพราะเขาเตือนอยู่ก่อนแล้ว จึงไม่ควรถามคำถามที่ไม่สำคัญในตอนนี้ เด็กหญิงจึงได้แต่หันหน้ากลับไป มองท้องฟ้าพราวดาว และพยักหน้า เมื่อชายหนุ่มได้ยิน ก็เพียงแค่ตวัดดาบออกไป ฆ่าหนูตัวใหญ่ที่อยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็หั่นเนื้อส่วนขา มาเสียบบนดาบแล้วย่าง สุดท้ายเขาลุกขึ้นยืนอย่างที่ไม่ค่อยทำ และยัดเนื้อนั้นใส่ปากของเด็กหญิง ถึงรสชาติจะจืดชืด ทว่ากลิ่นหอมของไขมันนั้น ช่างน่าหลงใหลเป็นพิเศษในเวลานี้ เอาเถอะ อย่างน้อยชายคนนั้น ก็ไม่ได้ขอให้เธอถือกินเองตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะรู้ด้วยว่า แขนขาของเธอเสียหายหนัก จนใช้การไม่ได้แล้ว * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2 |
เรื่องราวของตัวละคร 2 | เมื่ออาการบาดเจ็บของเด็กสาวคงที่แล้ว ชายคนนั้นก็อนุญาตให้เธอ ถามคำถามที่ไม่สลักสำคัญบางคำถาม "คุณก็เป็นผู้รอดชีวิตเหมือนกันเหรอ?" "ไม่ใช่" "แล้วทำไม ฉันถึงเข้าใจสิ่งที่คุณพูดได้ล่ะ?" "ความโกลาหลมีเพียงสถานะไร้ระเบียบ และความว่างเปล่า ก็มีคำจำกัดความเดียวเช่นกัน แต่ในทางกลับกัน ความเป็นระเบียบนั้น กลับมีรูปแบบมากมายนับไม่ถ้วน ผู้คนบนดาวของเธอเคยใช้ ความสามารถในการปรับตัวที่ทรงพลัง เพื่อสัมผัสกับ Abyss และพลังที่ปนเปื้อนมาหลังจากตายไป ก็ได้บันทึกบางสิ่งเอาไว้ ซึ่งพลังเหล่านี้คล้ายคลึงกับ แก่นแท้ของพลังของฉันอย่างมาก ฉันผสานความคิดสุดท้ายก่อนตาย ของผู้คนนับหมื่นเข้าด้วยกัน และใช้เวลาครึ่งวัน เพื่อเรียนรู้จากพวกเขา คิดว่านะ" "แค่เพื่อเรียนรู้ภาษาของพวกเรา เท่านั้นเองเหรอ? งั้นพ่อกับแม่ของฉัน..." "โดนกินไปแล้ว ก็แค่สารอาหารเพียงน้อยนิด ที่ใช้เป็นเสบียง เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ฉันกินไปแล้ว" ชายคนนั้นตอบคำถามข้อที่สองก่อน แล้วพูดต่อ: "ตอนแรกฉันนึกว่า การที่เจ้าพวกนั้นทำทุกวิถีทาง เพื่อกำจัดสิ่งมีชีวิตบนดาวดวงนี้ ให้สูญสิ้น ก็เพราะพวกเธอ มีสุดยอดเทคโนโลยีบางอย่าง ที่ขับเคลื่อนพลังของ Abyss แต่ปรากฏว่าเทคโนโลยีพวกนี้ ทั้งหยาบและเป็นสิ่งที่มีแต่เดิม ราวกับว่าอารยธรรมของพวกเธอ ไม่เคยมีคนที่ทั้งทะเยอทะยาน และแข็งแกร่งเลยสักคน" "แก...!" "เธอก็กินสัตว์ที่ขุดเธอออกมา จากซากปรักหักพังนั่น เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? อ้อ ฉันจับมันมาจากดาวดวงอื่นน่ะ ถึงยังไงสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนดาวของเธอ ก็สูญพันธุ์ไปหมดแล้วนี่ ฉันอยากจะหาสิ่งมีชีวิต ที่เก่งเรื่องการค้นหา แต่ก็หาไม่เจอเลย" เด็กหญิงคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็พูดไม่ออก สุดท้ายเธอก็ตัดสินใจถามเรื่องอื่นแทน: "ทำไมฉันถึงยังมีชีวิตอยู่?" "อารยธรรมของพวกเธอร่วมมือกับ Abyss ถึงจะไม่ได้ใช้มันโดยตรง แต่สุดท้ายแล้ว ทุกคนก็แปดเปื้อนไปด้วยบางส่วน" พวกมันช่วยเสริมความแข็งแกร่ง ให้ร่างกายได้เล็กน้อย ถ้าหากคนธรรมดา ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ก็น่าจะขาดใจตาย จากนั้นก็ถูกย่างจนสุก แล้วถูกหลังคาทับ จนร่างแหลกไปแล้ว" "การมีพลังแบบนั้น มันทำให้แข็งแกร่งขึ้นได้งั้นเหรอ?" ในที่สุดแววตาของชายคนนั้น ก็เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย: "เธออยากแข็งแกร่งขึ้นรึเปล่า?" เด็กหญิงพยักหน้า "ถึงจะต้องแลกด้วยทุกสิ่ง ถึงแม้สุดท้ายแล้ว เธอจะถูกตัดสินว่าเธอทำทุกอย่าง เพื่อชัยชนะโดยไม่สนวิธีการ เธอก็ยังอยากจะแข็งแกร่งขึ้นใช่มั้ย?" คำตอบของเด็กหญิงนั้น ได้ถูกสายลมพัดปลิวหายไป บนดวงดาวแห่งความตายอันรกร้าง และเดียวดาย * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3 |
เรื่องราวของตัวละคร 3 | ตอนนี้ชื่อของเธอคือ Skirk แขนขาและกระดูกที่หักของเธอ ได้รับการฟื้นฟูสู่สภาพเดิม โดยชายที่เรียกตัวเองว่า "เลวสุดขั้ว" (The Foul) แต่นั่นไม่ใช่เรื่องดีแต่อย่างใด ชายคนนั้นเอาแต่ให้เธอกวัดแกว่งอาวุธ เพื่อฝึกซ้อมทุกวัน กวัดแกว่งไปเรื่อย ๆ จนกล้ามเนื้อฉีกขาด และกระดูกแตกเป็นเสี่ยง ๆ อีกครั้ง ราวกับเพียงแค่ต้องการทำให้เธอ ลิ้มรสความเจ็บปวด จากนั้นเมื่อในแต่ละวันสิ้นสุดลง ร่างกายของเธอก็จะฟื้นฟู กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง เธอเดินทางไปทั่วจักรวาลร่วมกับ The Foul และได้เห็นอาจารย์คนนี้ กำจัดศัตรูทุกประเภทได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็นอาวุธเผด็จศึก ที่สร้างจากการรวบรวมทรัพยากร ทั่วทั้งระบบดาวฤกษ์ เทพเจ้าที่ถือกำเนิดจากความศรัทธาของผู้คน หรือนักรบที่แข็งแกร่งที่สุด ในหมู่สิ่งมีชีวิตนับพันล้าน... เมื่อเธอแข็งแกร่งขึ้น เธอก็มั่นใจอยู่เรื่องหนึ่งว่า: ยังไม่มีใครสามารถทำให้อาจารย์ของเธอ แสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาได้เลย หากเป็นอสูรร้าย เขาก็จะกินเลือดเนื้อของมันลงไป หากเป็นเทพเจ้าหรือจักรกล เขาก็จะดูดซับพลังงานของมัน หากเป็นนักรบหรือนักเวท เขาก็จะกดดันให้อีกฝ่าย แสดงความสามารถออกมา เหมือนแกล้งกัน พอเบื่อแล้วก็ฆ่าทิ้ง อาจารย์ของเธอ เรียกสิ่งเหล่านี้ว่าการ "กิน" ในที่สุดแขนขาของ Skirk ก็ถูกแทนที่ด้วยร่างมายาของ Abyss โดยสมบูรณ์ และไม่รู้สึกเจ็บปวดอีกต่อไป ประสาทรับความเจ็บปวด ที่โอเวอร์โหลดมานาน กลายเป็นอัมพาตไปแล้วอย่างสิ้นเชิง และไม่มีวันส่งสัญญาณ ของความเจ็บปวดอีกแล้ว ความเจ็บปวดคือ กลไกหลีกเลี่ยงภัย ตามสัญชาตญาณทางชีววิทยา Skirk จึงรู้ดีว่าร่างกายนี้กำลังบอกเธอว่า: ตอนนี้เธอแข็งแกร่งมากแล้ว และเป็นเรื่องยากที่เธอ จะเผชิญกับอันตรายอีกครั้ง สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เธอ วันหนึ่งในเวลาต่อมา เธอได้ถามคำถาม ที่เก็บซ่อนไว้ลึกที่สุดไปว่า: "ทำไมตอนนั้น อาจารย์ต้องช่วยฉันไว้ด้วย? * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
เรื่องราวของตัวละคร 4 | "ก็แค่นึกสนุกขึ้นมาน่ะ" อาจารย์... ที่มีชื่อจริงว่า Surtalogi... ตอบเธอเช่นนี้: "เธอเชื่อมั้ยว่า ตัวฉันในตอนนี้ อาจเป็นภัยพิบัติที่ร้ายแรงที่สุด ในจักรวาลก็ได้" "เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องพูดว่า ฉันเชื่อหรือไม่เชื่อหรอก เพราะคนที่ไม่เชื่อถูกทำลายไปในความว่างเปล่าแล้ว" "หึหึ ฉันแสวงหาพลังมาโดยตลอด พลังที่เอาชนะทุกอุปสรรค และแผนการร้ายทั้งหมด ได้ด้วยตัวคนเดียว แต่พอเดินมาไกลถึงขนาดนี้แล้ว ฉันกลับชักจะเริ่มหวั่นใจซะอย่างนั้น... หวั่นใจว่าฉันจะเบื่อ" Skirk ฟังอย่างเงียบ ๆ เธอไม่อาจเข้าใจได้เลยว่า ชีวิตของจอมวายร้าย ที่น่าตื่นตาตื่นใจเช่นนี้จะน่าเบื่อได้ "หลังจากที่ฉัน เสาะหาผู้แข็งแกร่งทั้งหมดจนเจอ ฉันก็ไม่มีเป้าหมายใหม่อีกต่อไป" นิยายเล่มนั้นเขียนไว้ว่ายังไงนะ? 'ขอบเขตของคำว่าระยะไกลนั้น ขึ้นอยู่กับความเปลี่ยนแปลงของจิตใจ หัวใจของฉันนั้นใหญ่กว่าทั่วทั้งจักรวาล' เมื่อทั้งจักรวาล เป็นแค่สนามหญ้าหน้าบ้านฉัน สิ่งที่ฉันจะได้เห็นต่อจากนี้ ก็คงมีแค่มดสองรังต่อสู้กัน ถึงตอนนั้นฉันคงใช้ชีวิตวัยฉกรรจ์ ที่แสนน่าเบื่ออยู่แน่ ๆ" แน่นอนว่า Surtalogi ไม่มีทางอ่านนิยายอยู่แล้ว เพราะช่วงก่อนหน้านี้ อาจารย์มองออกว่า บางสิ่งที่ล่องลอยอยู่ในจักรวาลนั้น มีกลิ่นอายของบ้านเกิดของเขาอยู่ เขาอ่านชื่อเรื่อง และคำนำก่อนจะโยนมันทิ้งไป บังเอิญว่าคำนำนั้น มีข้อความประโยคนี้พอดี "เพราะงั้นฉันเลย เคยคิดจะฝึกอบรมลูกศิษย์ของตัวเอง และรอให้พวกเขาโตเป็นผู้ใหญ่ก่อน ถึงตอนนั้น ฉันค่อยไปตามหาความสนุก และเธอก็เป็นลูกศิษย์คนแรก และหลังจากที่เธอจากไปแล้ว ฉันก็จะไม่ถือว่า เธอเป็นลูกศิษย์ของฉันอีก ฉันจะพรากทุกอย่างของเธอไป ทั้งสิ่งที่ฉันให้เธอ สิ่งที่เธอค้นพบ สิ่งที่อยู่รอบตัวเธอ หรือสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ... ฉันจะทำลายให้หมด" Skirk รู้ดีว่า นี่ไม่ใช่คำโกหกที่ปั้นแต่งขึ้นมา เพื่อปลุกเร้าเธอ และไม่ได้มีสายใยของศิษย์อาจารย์ หรือความห่วงหาทุ่มเทใจใด ๆ ทั้งนั้น ทุกคำที่เขาพูดล้วนมีความหมายตรงตัว เมื่อใดที่วันนั้นมาถึง จะต้องเกิดการต่อสู้ถึงตายอย่างแน่นอน บนโลกใบนี้มีเส้นทางอยู่มากมาย แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไป บนเส้นทางหนึ่งในนั้น ความเป็นไปได้ที่เหลือก็จะหายไป นับตั้งแต่วันนั้นมา ดาบคมกริบที่ไม่รู้ว่าตกลงมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ก็ห้อยค้างอยู่เหนือศีรษะ Skirk ทั้งชะตากรรมและชีวิตของเธอ ต่างถูกรวบไว้ด้วยกันกับคำว่า "แข็งแกร่งขึ้น" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5 |
เรื่องราวของตัวละคร 5 | "อาจารย์ ในเมื่ออาจารย์บอกว่า ก่อนหน้านี้ พวกอาจารย์เคยแบ่งพลังของ Abyss ที่สามารถพลิกโลกทั้งใบได้ เอาเป็นว่าหนึ่งในหกของโลกก็แล้วกัน ทำไมตอนนี้พลังของอาจารย์ ถึงแข็งแกร่งกว่าโลกใบนึง ตั้งหลายเท่าเลยล่ะ?" "นี่ตอนนั้นฉันช่วยเจ้าโง่คนนึง กลับมาเหรอเนี่ย? เมื่อผลของต้นไม้ตายลง และเมล็ดของมัน หล่นลงไปในดินที่เน่าเปื่อย ต้นไม้เหล่านั้นย่อมมีโอกาส เติบโตเป็นต้นไม้ที่เขียวชอุ่ม ยิ่งกว่าต้นเดิม และออกผลได้มากกว่า เป็นร้อยเท่าหรือพันเท่า โลกที่ถูกทำลายล้างไปมากมาย แม้จะมีเพียงสองคนสุดท้าย ที่หนีรอดมาได้ ก็ล้วนมีโอกาสกลายเป็น เจตจำนงอันทรงพลัง ที่สามารถสร้างโลกขึ้นมาใหม่ได้" เมื่อวันแห่งการจากลามาถึง Skirk ก็ไม่แสดงท่าทีเคารพ หรือเชื่อฟังคำสั่งอีกต่อไป ความกลัวสามารถใช้เป็นแรงผลักดันได้ เฉพาะในยามที่อ่อนแอเท่านั้น แต่หลังจากที่เติบโตขึ้นแล้ว หากไม่ก้าวข้ามมันไป มันก็จะกลายเป็นเพียงโซ่ตรวน ที่คอยขัดขวางการเติบโตต่อไป สุดท้าย เธอจึงตัดสินใจบอกลา และเดินทางไปยังบ้านเกิดของ Surtalogi ผู้เป็นอาจารย์ โลกนั้นมีชื่อว่า "Teyvat" เธอต้องการไปพบต้นมาตานั้น ต้นมาตานั้นให้ผลที่เน่าเปื่อย และสุดท้ายก็ทำให้ เมล็ดพันธุ์ที่ปนเปื้อนนั้น เติบโตขึ้นมาเป็นต้นมาตา ของต้นไม้ยักษ์ นับแต่นั้นมา เงามืดก็ได้ปกคลุมไปทั่วผืนป่าตลอดกาล และ The Foul ก็ยังคุกคามทั่วทั้งจักรวาล อารยธรรมอื่น ๆ ในจักรวาลเคยเห็นเธอมาก่อน จึงถือว่าเธอเป็นผู้ช่วยของ "The Foul" อารยธรรมทั้งหมด ที่เธอเคยพบเจอระหว่างเดินทาง ต่างมองว่าเธอเป็นสมาชิกของ "ภัยพิบัติแห่งจักรวาล" และคอยระวังป้องกันจากระยะไกล ยกเว้นแต่ผู้ดูแลชายแดนของ Teyvat ที่คลายความระแวงที่มีต่อเธอ หลังจากได้พูดคุยกับเธอ หลังจากทำข้อตกลงกันแล้ว ก็อนุญาตให้เธอเคลื่อนไหวในโลกนี้ได้ ในขอบเขตที่จำกัด "เธอไม่ใช่คนของที่นั่น ที่นั่นไม่ใช่บ้านของเธอ" คำเตือนของ The Foul ยังคงอยู่ในใจเธอเสมอ แต่ว่าหากมีใคร สังเกตเห็นดาวตกที่พาดผ่าน แล้วอธิษฐานขอพรกับมัน จะถือว่าดาวตกนั้น เกิดสายสัมพันธ์บางอย่าง กับโลกด้วยมั้ยนะ? * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
คำตอบ | "ถึงจะต้องแลกด้วยทุกสิ่ง ถึงแม้สุดท้ายแล้ว เธอจะถูกตัดสินว่าเธอทำทุกอย่าง เพื่อชัยชนะโดยไม่สนวิธีการ เธอก็ยังอยากจะแข็งแกร่งขึ้นใช่มั้ย?" คำตอบของ Skirk ที่ถูกสายลมพัดพาไปในตอนนั้น คืออะไรกันนะ? บางทีคำตอบอาจเป็นเพียงคำว่า "ใช่" ที่แสนแผ่วเบา แต่มันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งที่ตามมาหลังจากนั้นได้อยู่ดี แต่ตอนนั้น Skirk ไม่ได้ตอบไปตรง ๆ แบบนี้ ตอนนั้นเธอยังเป็นเพียง เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ไม่ได้มีความคิดฉลาด ๆ มากมายอยู่ในใจ เธอเพียงต้องการแสดงความขอบคุณ และขอโทษต่อชีวิต ที่กลายเป็นอาหารชิ้นแรก ในเส้นทางการเติบโตของเธอ "หนูยักษ์ตัวนั้น ถ้าฉันเป็นเพื่อนกับมันก็น่าจะได้" ...แต่ตอนนี้ ฉันกลับกินมันเข้าไปแล้ว คำพูดนี้พอเข้าหู The Foul กลับมีความหมายเพิ่มมาอีกอย่างนึงว่า: ฉันทอดทิ้งผู้มีพระคุณ ที่ช่วยชีวิตฉันขึ้นมา จากซากปรักหักพังไปแล้ว แล้วจะมีอะไรที่ฉันทอดทิ้งไม่ได้อีกล่ะ? มันยากที่จะบอกว่าในคำพูดนี้ ส่วนไหนเป็นแค่การคิดเอาเอง ส่วนไหนเป็นความเข้าใจผิด และส่วนไหนคือจงใจพูด แต่นอกเหนือจากนี้ ก็อาจมีความเข้าใจผิดระหว่างคนสองคน ที่ไม่มีใครคาดคิดจริง ๆ "ถ้างั้น คนที่ช่วยเธอในวันนั้น ยังมีฉันด้วยอีกคน สักวันนึงเธอจะฆ่าฉัน เพื่อจะได้แข็งแกร่งขึ้นด้วยรึเปล่า?" คำพูดประโยคนี้ทำให้ The Foul เกิดความคาดหวังขึ้นมา ทว่าวันนั้น เด็กสาวผู้ตกอยู่ในความสิ้นหวัง ไม่ได้ตระหนักถึงเรื่องนี้เลย * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4 |
อสรพิษเจ็ดแปร | "อสรพิษเจ็ดแปร" เป็นเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ The Foul ถ่ายทอดให้แก่ Skirk เดิมทีมันเป็นเวทมนตร์เล็ก ๆ ที่สถาบันลับแห่ง Khaenri'ah คิดค้นขึ้นมา ชื่อเดิมของมันคือ "โกลาหลแทรกซึม" ซึ่งมันถูกใช้เพื่อเยาะเย้ย ผู้ใช้พลังธาตุบนโลก เหล่านักเวทสามารถใช้พลังแห่ง Abyss เพื่อกระตุ้นให้เกิดความเปลี่ยนแปลง ที่คล้ายกับพลังธาตุได้ หลักการของมันคล้ายคลึงกับการใช้ Abyss แทรกซึมเข้าไปในโลกความเป็นจริง โดยสร้างแรงดันลบรูปแบบเฉพาะ เพื่อกระตุ้นให้พลังงานธาตุไหลออกมา เดิมที Khaenri'ah เห็นมันเป็นมายากล และใช้เฉพาะในการแสดง และในขบวนพาเหรดเท่านั้น เดิมที The Foul เป็นนักรบ จึงไม่ค่อยเข้าใจสิ่งนี้นัก แต่เมื่อความเข้าใจเกี่ยวกับพลังแห่ง Abyss แทรกซึมเข้ามา เขาก็เรียกได้ว่า กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญ ในเทคโนโลยีนี้ทันที ในขณะที่คนทั่วไป ต้องใช้เวลาหลายเดือน ในการฝึกแปลงธาตุชนิดเดียว เพื่อใช้ในการแสดงเลี้ยงปากท้อง ทว่า The Foul กลับสามารถสับเปลี่ยนธาตุทั้งเจ็ด ได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่ครั้งแรกที่ลองทำ คราวนี้ เขาได้สอนวิชานี้ให้กับ Skirk แต่ก็ไม่ใช่เพื่อให้เธอเอาไปใช้ แสดงหาเลี้ยงชีพตามถนนใน Teyvat เวลาไม่มีเงิน เพราะถึงยังไง การแสดงทักษะการควบคุม Abyss อย่างเชี่ยวชาญในประเทศทั้งเจ็ดนั้น ก็ไม่ต่างอะไรกับการหาเรื่องใส่ตัว "ที่บ้านเกิดของฉัน ลำดับของธาตุทั้งเจ็ด ถือเป็นหลักการสามัญ ถ้าเธออยากปิดบังเรื่องพลังของเธอ ให้นานขึ้นอีกหน่อย ก็จงใช้พลัง ในรูปแบบของมายากลนี้เถอะ" * ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6 |
268 responses to “Skirk”
she is much too strong and needs to be nerfed
shes only too strong if ur a whale and have her dedicated supports. Most people cant afford that so no, not too strong
they will release an even stronger cryo dps down the line, don’t worry.
If I have Furina and Escoffier, which is better for Skirk: her signature or Shenhe?
Shenhe or the 4th spot in the team is the most flexible spot in the team. You can put here Yelan, cinder city ttds Mualani/Citlali, C4 Mona, Dahlia (attack speed buff) and so on. So her signature is much better for her than Shenhe.
Signature Weapon.
brain
if you have a mona, then you definitely need a sign
Her c1. It gives the same dmg boost as her sig, and doesn’t have an offrate weapon that’s useless other than on Shenhe. Pull the weapon on a rerun that has a decent offrate.