Kaveh

Kaveh
KavehNameKaveh
Titleม่านนภาสะท้อนปฐพี
Occupationห้องทำงานออกแบบอิสระ
AssociationSUMERU
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
WeaponWeapon Claymore
ElementElement Dendro
Day of Birth9
Month of Birth7
Vision (Introduced)ไม้
Constellation (Introduced)Paradisaea
Chinese Seuyu刘三木
Japanese Seuyu内田雄馬
English SeuyuBen Balmaceda
Korean SeuyuLee Jeong-min
Descriptionสถาปนิกที่มีชื่อเสียงของ Sumeru เขาเป็นคนที่ใส่ใจเป็นห่วงเป็นใยหลายสิ่งหลายอย่างมากจนเกินไป ทั้งยังเป็นนักสุนทรียศาสตร์ ผู้มีปัญหากับความเป็นจริงอีกด้วย
Character Ascension Materials
Nagadus Emerald Sliver
Nagadus Emerald Fragment
Nagadus Emerald Chunk
Nagadus Emerald Gemstone
Quelled Creeper
Mourning Flower
Fungal Spore
Luminescent Pollen
Crystalline Cyst Dust
Skill Ascension Materials
Teachings of Ingenuity
Guide to Ingenuity
Philosophies of Ingenuity
Primordial Greenbloom
Crown of Insight

Table of Content
Stats
Skills
Skill Ascension
Related Items
Gallery
Sounds
Quotes
Stories

Stats

LvHPAtkDefCritRate%CritDMG%Bonus EMMaterialsTotal Materials
1100319.5962.955.0%50.0%0%
20257750.32161.715.0%50.0%0%
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower3
Fungal Spore3
Mora20000
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower3
Fungal Spore3
Mora20000
20+332664.96208.745.0%50.0%0%
40498297.3312.665.0%50.0%0%
Nagadus Emerald Fragment3
Quelled Creeper2
Mourning Flower10
Fungal Spore15
Mora40000
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower13
Fungal Spore18
Mora60000
Nagadus Emerald Fragment3
Quelled Creeper2
40+5514107.7346.085.0%50.0%24
506343123.88398.075.0%50.0%24
Nagadus Emerald Fragment6
Quelled Creeper4
Mourning Flower20
Luminescent Pollen12
Mora60000
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower33
Fungal Spore18
Mora120K
Nagadus Emerald Fragment9
Quelled Creeper6
Luminescent Pollen12
50+7052137.74442.625.0%50.0%48
607881153.92494.625.0%50.0%48
Nagadus Emerald Chunk3
Quelled Creeper8
Mourning Flower30
Luminescent Pollen18
Mora80000
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower63
Fungal Spore18
Mora200K
Nagadus Emerald Fragment9
Quelled Creeper14
Luminescent Pollen30
Nagadus Emerald Chunk3
60+8413164.32528.035.0%50.0%48
709241180.48579.965.0%50.0%48
Nagadus Emerald Chunk6
Quelled Creeper12
Mourning Flower45
Crystalline Cyst Dust12
Mora100K
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower108
Fungal Spore18
Mora300K
Nagadus Emerald Fragment9
Quelled Creeper26
Luminescent Pollen30
Nagadus Emerald Chunk9
Crystalline Cyst Dust12
70+9773190.88613.375.0%50.0%72
8010602207.06665.375.0%50.0%72
Nagadus Emerald Gemstone6
Quelled Creeper20
Mourning Flower60
Crystalline Cyst Dust24
Mora120K
Nagadus Emerald Sliver1
Mourning Flower168
Fungal Spore18
Mora420K
Nagadus Emerald Fragment9
Quelled Creeper46
Luminescent Pollen30
Nagadus Emerald Chunk9
Crystalline Cyst Dust36
Nagadus Emerald Gemstone6
80+11134217.46698.785.0%50.0%96
9011962233.64750.775.0%50.0%96

Skills

Active Skils

โจมตีปกติ: Schematic Setupโจมตีปกติ: Schematic Setup
โจมตีปกติ
ใช้ Mehrak โจมตีต่อเนื่องมากสุด 4 ครั้ง

ชาร์จโจมตี
ใช้พลังกายต่อเนื่อง เพื่อฟันโจมตีติดต่อกันอย่างรวดเร็ว
เมื่อการชาร์จโจมตีสิ้นสุดลง จะทำการฟันอย่างรุนแรงเพิ่มอีก 1 ครั้ง

โจมตีพุ่งลงจากอากาศ
กระโจนจากกลางอากาศลงมายังพื้นดิน เพื่อโจมตีศัตรูที่อยู่ในเส้นทางการโจมตี โดยจะสร้างความเสียหายวงกว้างเมื่อลงถึงพื้น
Lv1Lv2Lv3Lv4Lv5Lv6Lv7Lv8Lv9Lv10Lv11Lv12Lv13Lv14Lv15
ความเสียหายขั้น 176.19%82.39%88.59%97.45%103.65%110.74%120.48%130.22%139.97%150.6%161.23%171.86%182.49%193.12%203.75%
ความเสียหายขั้น 269.64%75.31%80.98%89.07%94.74%101.22%110.13%119.03%127.94%137.66%147.37%157.09%166.81%176.53%186.24%
ความเสียหายขั้น 384.26%91.12%97.98%107.78%114.63%122.47%133.25%144.03%154.81%166.56%178.32%190.08%201.83%213.59%225.35%
ความเสียหายขั้น 4102.69%111.05%119.41%131.35%139.7%149.26%162.39%175.53%188.66%202.99%217.32%231.65%245.97%260.3%274.63%
ความเสียหายขณะชาร์จโจมตี53.15%57.47%61.8%67.98%72.31%77.25%84.05%90.85%97.64%105.06%112.48%119.89%127.31%134.72%142.14%
ความเสียหายชาร์จโจมตีครั้งสุดท้าย96.15%103.97%111.8%122.98%130.81%139.75%152.05%164.35%176.64%190.06%203.48%216.89%230.31%243.72%257.14%
ชาร์จโจมตีใช้พลังกาย40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ40 หน่วย / วิ
ระยะเวลาต่อเนื่องสูงสุด5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ5 วิ
ความเสียหายพุ่งลง74.59%80.66%86.73%95.4%101.47%108.41%117.95%127.49%137.03%147.44%157.85%168.26%178.66%189.07%199.48%
ความเสียหายพุ่งถึงพื้นจากที่ต่ำ/สูง149.14% / 186.29%161.28% / 201.45%173.42% / 216.62%190.77% / 238.28%202.91% / 253.44%216.78% / 270.77%235.86% / 294.6%254.93% / 318.42%274.01% / 342.25%294.82% / 368.25%315.63% / 394.24%336.44% / 420.23%357.25% / 446.23%378.06% / 472.22%398.87% / 498.21%
Artistic IngenuityArtistic Ingenuity
เปลี่ยนพลังงานในการทำแผนที่ของ Mehrak ให้เป็นการใช้งานเชิงรุก โดยทำการสแกนเป็นรูปวงกลม เพื่อสร้างความเสียหายไม้วงกว้าง และทำให้ Dendro Core ทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่สแกนระเบิดโดยทันที

Mehrak ถูกดัดแปลงขึ้นโดยอาศัยหลักพื้นฐานของเทคโนโลยีในสมัยโบราณ ด้วยเหตุนี้ นอกจากจะสามารถช่วยให้งานทำแผนที่สำเร็จลุล่วงแล้ว บางทีอาจจะยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกก็เป็นได้...
Lv1Lv2Lv3Lv4Lv5Lv6Lv7Lv8Lv9Lv10Lv11Lv12Lv13Lv14Lv15
ความเสียหายสกิล204%219.3%234.6%255%270.3%285.6%306%326.4%346.8%367.2%387.6%408%433.5%459%484.5%
คูลดาวน์6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ6 วิ
Painted DomePainted Dome
ปลดปล่อยพลังงานของ "Mehrak" ออกมาอย่างสมบูรณ์ โดยจะสร้างพื้นที่การทำแผนที่ทรงลูกบาศก์ขึ้นมา เพื่อสร้างความเสียหายไม้วงกว้างแก่ศัตรูที่อยู่ภายในพื้นที่ ทำให้ Dendro Core ทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่ระเบิดโดยทันที และเสริมความสามารถในการต่อสู้ให้แก่ Kaveh ช่วงเวลาหนึ่ง:
·เพิ่มขอบเขตการโจมตี ของการโจมตีปกติ, การชาร์จโจมตี และการโจมตีพุ่งลงจากอากาศของ Kaveh และเปลี่ยนความเสียหายของการโจมตี ให้เป็นความเสียหายไม้ที่ไม่สามารถซ้อนทับด้วยธาตุอื่นได้;
·เมื่อ Dendro Core ที่เกิดจากปฏิกิริยางอกเงย ของตัวละครในทีมของตนเองระเบิด ความเสียหายที่สร้างจะเพิ่มสูงขึ้น;
·เพิ่มความสามารถในการต้านทานการหยุดชะงักของ Kaveh
เอฟเฟกต์จะหายไปเมื่อ Kaveh ออกจากการต่อสู้

"สถาปัตยกรรมแต่ละรูปแบบนั้น ล้วนแฝงความคิดอันเป็นเอกลักษณ์ของผู้สร้าง ที่มีต่อโลกเอาไว้ ซึ่งจากมุมมองนี้อาจกล่าวได้ว่า สถาปัตยกรรมก็คือ ความทรงจำของผู้คนที่ก่อตัวรวมกันขึ้นมา"
Lv1Lv2Lv3Lv4Lv5Lv6Lv7Lv8Lv9Lv10Lv11Lv12Lv13Lv14Lv15
ความเสียหายสกิล160%172%184%200%212%224%240%256%272%288%304%320%340%360%380%
ระยะเวลาต่อเนื่อง12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ12 วิ
โบนัสความเสียหายการระเบิดของ Dendro Core27.49%29.55%31.61%34.36%36.42%38.48%41.23%43.98%46.73%49.48%52.23%54.98%58.41%61.85%65.28%
คูลดาวน์20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ20 วิ
พลังงานธาตุ808080808080808080808080808080

Passive Skills

The Art of BudgetingThe Art of Budgeting
เมื่อสร้างเฟอร์นิเจอร์ประเภททิวทัศน์, อาคาร และสวน จะมีโอกาส 100% ที่จะได้รับวัสดุที่ใช้บางส่วนคืน
An Architect's UndertakingAn Architect's Undertaking
เมื่อ Kaveh ถูกความเสียหายที่เกิดจาก Dendro Core (รวมถึงการเบ่งบานและไฮเปอร์บลูม) Kaveh จะฟื้นฟูค่าพลังชีวิต ซึ่งปริมาณการฟื้นฟู จะเท่ากับ 300% ของความชำนาญธาตุของ Kaveh โดยที่เอฟเฟกต์นี้ในทุก 0.5 วินาที จะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง
A Craftsman's Curious ConceptionsA Craftsman's Curious Conceptions
ระหว่างช่วงเวลาต่อเนื่องของ Painted Dome หลังจากที่การโจมตีปกติ, การชาร์จโจมตี หรือการโจมตีพุ่งลงจากอากาศของ Kaveh ถูกศัตรู ความชำนาญธาตุของ Kaveh จะเพิ่มขึ้น 25 หน่วย โดยที่เอฟเฟกต์นี้ในทุก 0.1 วินาที จะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง และซ้อนทับได้มากสุด 4 ชั้น
เมื่อเอฟเฟกต์ Painted Dome สิ้นสุดลง เอฟเฟกต์นี้จะถูกลบล้าง

Constellations

Sublime SalutationsSublime Salutations
ภายใน 3 วินาที หลังจากปล่อย Artistic Ingenuity Kaveh จะมีความต้านทานไม้เพิ่มขึ้น 50% และปริมาณการรักษาที่ได้รับจะเพิ่มขึ้น 25%
Grace of Royal RoadsGrace of Royal Roads
ระหว่างช่วงเวลาต่อเนื่องของ Painted Dome ความเร็วในการโจมตีปกติของ Kaveh จะเพิ่มขึ้น 15%
Profferings of Dur UntashProfferings of Dur Untash
เพิ่มเลเวลสกิลของ Painted Dome ขึ้น 3 ระดับ
เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15
Feast of ApadanaFeast of Apadana
การระเบิดของ Dendro Core ที่เกิดขึ้นเมื่อ Kaveh ทำให้เกิดปฏิกิริยางอกเงย จะสร้างความเสียหายเพิ่มขึ้น 60%
Treasures of BonkhanakTreasures of Bonkhanak
เพิ่มเลเวลสกิลของ Artistic Ingenuity ขึ้น 3 ระดับ
เพิ่มได้สูงสุดถึงระดับ 15
Pairidaeza’s DreamsPairidaeza’s Dreams
ระหว่างช่วงเวลาของ Painted Dome เมื่อการโจมตีปกติ, การชาร์จโจมตี หรือการโจมตีพุ่งลงจากอากาศของ Kaveh ถูกศัตรู จะปล่อย Pairidaeza's Light ที่ตรงตำแหน่งของศัตรู ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายไม้วงกว้างเป็น 61.8% ของพลังโจมตีของ Kaveh และทำให้ Dendro Core ทั้งหมด ที่อยู่ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเกิดการระเบิด โดยที่เอฟเฟกต์นี้ ในทุก 3 วินาที จะเกิดขึ้นได้มากสุดหนึ่งครั้ง

Skill Ascension

Sounds

TitleENCNJPKR
Party Switch
Opening Chest
Normal Attack
Medium Attack
Heavy Attack
Taking Damage (Low)
Taking Damage (High)
Battle Skill #1
Battle Skill #3
Sprinting Starts
Jumping
Climbing
Heavy Breathing (Climbing)
Open World Gliding (Start)
Open World Idle
Fainting
Idle Performance

Quotes

Audio Language:
TitleVoiceOver
พบกันครั้งแรก...
แชท - สุนทรียศาสตร์
แชท - คลายเบื่อ
แชท - สมบูรณ์แบบ
ในเวลาที่ฝนตก...
ในเวลาที่ฟ้าผ่า...
ในเวลาที่หิมะตก...
แดดส่องดีจัง...
ในเวลาที่อยู่ในทะเลทราย...
อรุณสวัสดิ์...
สวัสดีตอนเที่ยง...
สวัสดีตอนเย็น...
ราตรีสวัสดิ์...
เกี่ยวกับตัว Kaveh เอง - ความเชี่ยวชาญ
เกี่ยวกับตัว Kaveh เอง - ศิลปะ
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับเรา - ชื่นชม
เกี่ยวกับเรา - อุดมคติ
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6
เกี่ยวกับ "วิชั่น"...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
ต้องการจะแชร์อะไร...
ข้อมูลที่น่าสนใจ...
เกี่ยวกับท่านหญิงน้อย Kusanali...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Alhaitham - นิสัย
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Alhaitham - ซับซ้อน
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Tighnari...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Dori...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Cyno...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Collei...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Nilou...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เกี่ยวกับ Faruzan...
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
อยากรู้เกี่ยวกับ Kaveh - 1
อยากรู้เกี่ยวกับ Kaveh - 2
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3
อยากรู้เกี่ยวกับ Kaveh - 3
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
อยากรู้เกี่ยวกับ Kaveh - 4
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5
อยากรู้เกี่ยวกับ Kaveh - 5
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6
งานอดิเรกของ Kaveh...
เรื่องกลุ้มใจของ Kaveh...
อาหารที่ชอบ...
อาหารที่เกลียด...
ได้รับของขวัญ - 1
ได้รับของขวัญ - 2
ได้รับของขวัญ - 3
วันเกิด...
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทนำ
* ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 1
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - ชี้แจง
* ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 2
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - มุมมองอื่น ๆ
* ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 4
ความรู้สึกที่ได้เลื่อนขั้น - บทสรุป
* ปลดล็อกที่ระดับการเลื่อนขั้น 6
สกิลธาตุ - 1
สกิลธาตุ - 2
สกิลธาตุ - 3
ท่าไม้ตาย - 1
ท่าไม้ตาย - 2
ท่าไม้ตาย - 3
เปิดหีบสมบัติ - 1
เปิดหีบสมบัติ - 2
เปิดหีบสมบัติ - 3
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 1
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 2
ค่าพลังชีวิตต่ำ - 3
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 1
ค่าพลังชีวิตของเพื่อนต่ำ - 2
หมดสติ - 1
หมดสติ - 2
หมดสติ - 3
โดนโจมตีอย่างหนัก - 1
โดนโจมตีอย่างหนัก - 2
เข้าร่วมทีม - 1
เข้าร่วมทีม - 2
เข้าร่วมทีม - 3

Stories

TitleText
ข้อมูลตัวละครในประเทศที่เต็มไปด้วยผู้มีความสามารถอย่าง Sumeru ยามพูดถึงนักออกแบบ ผู้คนอาจจะนึกถึงคนนู้นคนนี้ต่าง ๆ มากมาย แต่ถ้าเจาะจงว่านักออกแบบสถาปัตยกรรม หลาย ๆ คนจะนึกถึงชื่อนี้เป็นอันดับแรก... Kaveh
เขาที่มาจากภาควิชาเทคโนโลยีของสถาบัน ครั้งหนึ่งถูกยกยอว่า เป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมที่ดีที่สุดในทศวรรษที่ผ่านมา มีชื่อเสียงว่าเป็นแสงแห่งภาควิชาเทคโนโลยี แต่น่าเสียดายที่ตัว Kaveh เอง ไม่ได้รู้สึกประทับใจกับชื่อนี้นัก
แม้ว่าชื่อและตำแหน่งที่ฟังดูดีนี้ จะทำให้เขาเป็นที่จดจำ แต่ก็เป็นพันธนาการที่ผูกมัดเขาไว้เช่นกัน ตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้ Kaveh รู้สึกอับอายที่ตัวเองล้มละลาย คนทั่วไปที่ไม่เป็นที่รู้จัก คงสามารถยอมรับได้อย่างเปิดเผยว่าตนล้มละลาย แต่ในฐานะสถาปนิกชื่อดังนั้น กลับทำไม่ได้ ความซื่อตรงที่มากเกินไป อาจนำไปสู่วิกฤตด้านความน่าเชื่อถือได้ ดังนั้นเพื่อรักษาหน้า Kaveh จึงมักจะหลีกเลี่ยงการพูดถึงเรื่องนี้ และพยายามแสร้งทำเป็นว่า เขากำลังใช้ชีวิตที่สุขสบายและมีความสุข
โชคดีที่ความสามารถในการออกแบบ และสุนทรียศาสตร์ของเขานั้นโดดเด่น ผู้คนเชื่อในพรสวรรค์ของเขา เลยไม่ได้ติดใจอะไรกับเรื่องนี้
สถาปนิกผู้ยิ่งใหญ่อย่าง Kaveh จะไปมีปัญหามากมายอะไรแบบนั้นได้ไงกันละเนอะ?
เรื่องราวของตัวละคร 1จนถึงทุกวันนี้ เมื่อเดินไปรอบ ๆ วัง Alcazarzaray หรือสถานที่ต่าง ๆ ในสถาบัน ก็มักจะได้ยินนักเรียนของภาควิชาเทคโนโลยีพูดถึงรุ่นพี่ Kaveh ที่เรียนจบไปแล้ว ในความคิดของนักเรียนในภาควิชาและสถาบันเดียวกัน Kaveh เป็นบุคคลผู้มีพรสวรรค์จากภาควิชาเทคโนโลยีในรอบทศวรรษ เป็นนักออกแบบที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ด้วยผลงานอันโดดเด่น Kaveh ทิ้งชื่อของเขาไว้ในประวัติศาสตร์ของสถาบันได้สำเร็จ หากมีนักเรียนภาควิชาเทคโนโลยียืนคุยกันอยู่ตามทาง ก็อาจจะได้ยินพวกเขาพูดถึงความสำเร็จของ Kaveh: การออกแบบวัง Alcazarzaray, การปรับปรุงอาคารสถานสำคัญอย่างประภาคารโบราณในท่าเรือ Ormos, การสร้างลิฟต์ท่าเรือและระบบโครงสร้างการขนถ่ายสินค้าขึ้นใหม่, เป็นผู้นำในการเสนอวิธีการปรับพื้นที่ให้เหมาะสมสำหรับป่าและหุบเขาโดยรอบ...ฯลฯ
สำหรับความสำเร็จพวกนี้ ชื่อ Kaveh ไม่ใช่ชื่อธรรมดา ๆ สำหรับใครอีกหลายต่อหลายคนอีกต่อไป มันราวกับกลายเป็นชื่อความสำเร็จในอาชีพของนักออกแบบเสียมากกว่า หลายคนใฝ่ฝันอยากจะมีผลงานแบบเขา นั่นคือการที่ได้แสดงความสามารถอันโดดเด่นในสถาบัน หลังจากเรียนจบก็ได้รับเชิญให้ไปทำงานร่วมกับบริษัทสถาปัตยกรรมยักษ์ใหญ่ต่าง ๆ จากนั้นไม่กี่ปีก็ออกมาเพื่อทำงานใต้ชื่อของตัวเอง
ความรู้ความเข้าใจที่มีต่อเขาของผู้คนในสังคมหยุดอยู่แค่ประมาณนี้ ไม่ค่อยมีใครรู้เกี่ยวกับความจริงและเบื้องหลังเรื่องราวความสำเร็จนั้น และนั่นเป็นสิ่งที่ Kaveh ปกปิดไว้ แน่นอนว่าเขาเป็นนักออกแบบที่เก่งมาก แต่น่าเสียดาย เขาที่เป็นแบบนี้ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตที่สมบูรณ์แบบอย่างที่ใคร ๆ จินตนาการไว้
เมื่อรวมประสบการณ์ที่ผ่านมาของ Kaveh เขาจะพูดว่า: ความเข้าใจผิดเป็นปัญหาที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ในบางเวลาผู้คนก็จะสูญเสียวิจารณญาณในบางประเด็น และได้รับอิทธิพลจากการตีตราแปะป้าย เช่น เมื่อได้ยินเกี่ยวกับ "สถาปนิก" ปฏิกิริยาแรกของผู้คนล้วนเกิดความคิดเพ้อฝันที่ว่า แค่ขยับมือนิด ๆ หน่อย ๆ ก็หาเงินใช้ได้สบาย ๆ แล้ว สะบัดปากกาดินสอไม่กี่ครั้งก็คงโด่งดังมีชื่อเสียงล่ะมั้ง แถมพอได้ยินคำว่า "ศิลปะ" ก็จะเกิดภาพลักษณ์แปลก ๆ ที่ไม่รู้ที่มาที่ไปอย่างเช่น เอ้อระเหยลอยชายเอย เอาแต่ใจตัวเองเอย มีนิสัยอึมครึมหรือไม่ก็ขี้หงุดหงิดงุ่นง่านเอย หรือก็อาจจะเป็นพวกชอบยกตัวชี้นิ้วสั่งอะไรแบบนั้น
ตัว Kaveh เองขัดกับจินตนาการข้างต้นอย่างสิ้นเชิง เขาไม่สามารถออกแบบให้เสร็จได้ด้วยการสะบัดปากกาเพียงครั้งเดียว เขาปฏิบัติต่องานออกแบบทุกอย่างด้วยความจริงใจเสมอ เขาแต่งตัวเหมือนบุคคลที่ประสบความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง เขาไม่เคยตัดสินคุณภาพของโครงการว่าดีหรือไม่ดี ตามจำนวนเงินค่าตอบแทนเลย หลักการออกแบบของเขาอยู่เหนือกว่าคนส่วนใหญ่ใน Sumeru เขามองว่า "ศิลปะ" เป็นบ่อเกิดการออกแบบแห่งชีวิต ทั้งยังไม่ละทิ้งคุณค่าด้านมนุษยศาสตร์ และคุณค่าด้านการใช้งานจริง เพราะงั้นในระหว่างการดำเนินการสร้าง จึงมีบางครั้งที่ต้องสละอะไรบางอย่าง บางครั้งก็เป็นเวลาพักผ่อน บางครั้งก็เป็นผลลัพธ์ด้านการตกแต่งเชิงศิลปะ บางครั้งก็เป็นเงินของเขาเอง
หลังจากผ่านการสั่งสมมานานหลายปี ในที่สุด Kaveh ก็ทำสำเร็จ พอวัง Alcazarzaray ถือกำเนิดขึ้นบนโลกนี้ ชื่อเสียงของเขาก็โด่งดังไปทั่ว Sumeru เพื่อนร่วมแวดวงต่างทึ่ง และชื่นชมกับจินตนาการของผู้ออกแบบวังบนต้นไม้ยักษ์ในตำนานนี้ แถมยังรู้สึกทึ่งกับความงดงามที่ผสมผสานการใช้งานด้านสถาปัตยกรรม และเรื่องราวของมันเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ขณะที่สร้างขึ้นอย่างหรูหรานั้น ตัวสถาปัตยกรรมเองก็ครองความแม่นยำ ความเที่ยง และความงดงามที่ชัดเจนอยู่ในนั้นด้วย บรรยากาศโดยรอบของผลงานนี้ได้ปกคลุมพื้นที่ว่างของภูเขารอบด้านทั้งหมด คงไม่มีใครปฏิเสธว่าวัง Alcazarzaray เป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จอย่างแท้จริง
แต่แล้วหลักการส่วนตัวของ Kaveh และประสบการณ์ชีวิตที่สั่งสมมานั้น ทำให้เขาล้มละลายจากโครงงานนี้ พวกคนในแวดวงเดียวกันต่างไม่รู้เรื่องนี้ ความจริงก็เหมือนกับความตรากตรำเบื้องหลังความสำเร็จ ที่ถูก Kaveh ซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดี
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 2
เรื่องราวของตัวละคร 2Kaveh เกิดในครอบครัวนักวิชาการชาว Sumeru ตามขนบ พ่อของเขามาจากภาควิชาอิลลูมิเนชั่นนิสม์ และเคยทำงานอยู่ในสถาบัน ส่วนแม่ของเขาจบการศึกษาจากภาควิชาเทคโนโลยี ทั้งยังเป็นสถาปนิกที่มีชื่อเสียงเหมือนกับ Kaveh ด้วย เมื่อได้รับอิทธิพลจากพ่อแม่ของเขา Kaveh จึงได้แสดงความสนใจในการออกแบบสถาปัตยกรรมตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขานั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นขณะที่ Kaveh นั่งต่อตัวต่อบล็อกไม้ที่พ่อแม่ซื้อให้อยู่ในบ้าน
ถึงจะไม่มีเสียงพูดคุยกันก็ไม่เป็นไร บ้านคือบรรยากาศอย่างหนึ่ง ความเข้าใจเกี่ยวกับ 'บ้าน' ของ Kaveh ก็มาจากช่วงเวลานั้นนั่นเอง
ช่วงเวลาดี ๆ นั้นกลับคงอยู่ได้ไม่นาน สักปีหนึ่งก่อนที่ Kaveh จะเข้าสถาบัน ด้วยการสนับสนุนและคำขอของเขา พ่อของเขาจึงได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันศึกชิงภาควิชาเจ้าปัญญาที่จัดขึ้นโดยสถาบัน เหตุการณ์การแข่งไม่ได้ซับซ้อนอะไร แต่พ่อของ Kaveh ผู้เป็นตัวเต็งในการแข่งขัน กลับพลาดตำแหน่งชนะเลิศ และหายตัวไประยะหนึ่งหลังจากสิ้นสุดการแข่งขัน
ในไม่ช้า ข่าวร้ายก็มาถึง: พ่อของ Kaveh เกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่ในทะเลทราย ข่าวนี้กะทันหันมากจนแม่และลูกชายตกอยู่ในความสับสนวุ่นวาย แม่ของ Kaveh เสียใจเป็นอย่างมาก แต่เดิมเธอก็เป็นคนอ่อนไหวอยู่แล้ว การเสียชีวิตของสามี ยิ่งทำให้เธอเศร้าเสียใจเป็นอย่างมาก และเธอรู้สึกวิตกกังวลและซึมเศร้าเป็นเวลานาน ส่วน Kaveh ไม่ว่าเขาจะหลับตาฝันไปกี่ครั้ง ก็จะฝันแต่เรื่องเดิม ๆ ซ้ำ ๆ ถึงเรื่องตลกที่พ่อเล่าก่อนที่จะออกจากบ้าน รวมถึงสัญญาของเขาว่าจะนำของดีมาให้เขาดู Kaveh ในวัยเด็กตระหนักได้ว่า หากเขาไม่เอ่ยถึง พ่อของเขาก็อาจไม่เข้าร่วมการแข่งขัน ไม่หายตัวไปหลังจากจบการแข่ง จนเสียชีวิตในที่สุด แต่ไม่ว่าจะอ้อนวอนเท่าไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการตายของพ่อ หรือความเจ็บปวดของแม่ก็ตาม... ทุกสิ่งที่ไม่อาจแก้ไขได้ เกิดขึ้นเพราะคำพูดของเขาเพียงคำเดียว ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ชีวิตของ Kaveh ก็แบกรับความรู้สึกผิดนี้ตลอดมา
แม่เคยบอกว่าพ่อเป็นคนดี มีเมตตา ได้อยู่กับคนแบบนี้เป็นเรื่องสุขยิ่งนัก หลังจากที่พ่อตาย แม่ก็ไม่เคยเผยรอยยิ้มออกมาอีก ดังนั้น "บ้าน" ซึ่งเป็นสถานที่อันแสนอบอุ่น มีแสงแดดสาดส่อง ก็กลายเป็นเพียงห้องนั่งเล่นที่อ้างว้างเยียบเย็นในที่สุด หลายครั้งที่ Kaveh เห็นแม่ของเขา นั่งเหม่อมองดูมือที่สั่นเทาของตนอยู่บนโซฟา เธอวาดอะไรไม่ออกเลยสักนิด ในหัวไม่มีความคิดภาพร่างอะไรอยู่เลย ทุกครั้งที่ Kaveh เห็นภาพนี้ ก็รู้สึกเหมือนถูกมือยักษ์ที่มองไม่เห็นกดเขาลงกับพื้น จนอดตั้งคำถามกับตัวเองในใจไม่ได้ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะฉัน บ้านแห่งนี้จะกลายเป็นอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้มั้ย?
ในตอนนั้น Kaveh ยังเป็นเพียงแค่เด็กน้อย สิ่งที่เขาทำได้มีจำกัดนัก ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงพยายามอยู่กับแม่มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่เคยแสดงสีหน้าท้อแท้สิ้นหวังหรือเศร้าใจต่อหน้าแม่สักครั้ง ให้การสนับสนุนทุกทางที่ต้องการ ถึงแม้จะรู้ว่า นั่นเป็นเพียงการใช้น้ำแก้วนึงมาดับรถขนฟืนที่กำลังลุกไหม้ก็ตาม
ท่ามกลางความวุ่นวายนั้น ในที่สุด Kaveh ก็ถึงวัยที่จะเข้าเรียน เขาได้สอบเข้าภาควิชาเทคโนโลยีของสถาบัน และเมื่อลูกชายเข้าเรียน เวลาที่แม่ลูกจะได้อยู่ด้วยกันก็ย่อมน้อยลงไปด้วย เพื่อเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศ แม่ของ Kaveh จึงได้เดินทางไปพักผ่อนยัง Fontaine ซึ่งในตอนนั้นเอง เธอก็ได้รับคำเชิญให้ไปทำงานในพื้นที่นั้น แม่ของ Kaveh กลับมาที่ Sumeru เพื่อแจ้งข่าวดีนี้ให้ Kaveh รู้ ถึงจะรู้อยู่แก่ใจว่าถ้าแม่เดินทางจากไป เขาจะต้องอยู่อย่างเดียวดาย แต่ Kaveh ก็ยินยอมที่จะให้แม่จากไปอย่างยินดี พร้อมทั้งไปส่งเธอเดินทางออกจาก Sumeru ด้วยตัวเอง
จวบจนเรือแล่นไกลออกไปจากท่าเรือ Kaveh ก็ยังคงยืนทอดสายตามองไกลออกไปอยู่ตรงนั้น เขารู้สึกโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง แต่เขาก็รู้ดีว่า นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับแม่ของเขา ที่จะได้ออกจากสถานที่ที่เต็มไปด้วยความเศร้าแห่งนี้ เพื่อความสุขของแม่ Kaveh ไม่มีทางยอมรับว่าตัวเองรู้สึกโดดเดี่ยว เขาย้ำกับแม่ว่า เขาโตพอที่จะอยู่คนเดียวได้แล้ว หากวันใดในอนาคต เขาเกิดรู้สึกเจ็บปวดเพราะความโดดเดี่ยวเดียวดาย หรือถึงขั้นไม่อาจข่มตาหลับได้ในยามค่ำคืน เพราะความคิดถึงครอบครัวที่แยกจากละก็ นั่นก็เป็นบทลงโทษสำหรับเขาที่ทำให้พ่อต้องเข้าร่วมการแข่งขันทั้งนั้น สำหรับคนบาปที่ทำร้ายพ่อแม่ นี่เป็นสิ่งที่เขาสมควรได้รับ เขาต้องแบกรับความอัปยศและมีชีวิตอยู่ต่อไป
เวลาต่อมาเขาก็มีความคิดแบบนี้ติดตัวตลอด บางทีอาจพูดได้ว่า ครอบครัวได้สอน Kaveh ให้รู้จักมีจิตใจดีเป็นห่วงเป็นใยผู้อื่น แต่ในขณะเดียวกันก็ได้พรากความสามารถในการทำร้ายคนอื่นของ Kaveh ไปจนสิ้น ดังนั้นหลายปีต่อมา เขาจึงยึดติดอยู่กับบุคลิกและอุดมคติของตัวเอง พยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อช่วยใครก็ตามที่ขอร้องเขา พยายามต่อต้านบางสิ่ง แต่ก็ไม่สามารถเป็นศัตรูกับคนอื่นได้จริง ๆ เขามักจะทำความดี แต่ก็ยังแบกรับความรู้สึกผิดไปด้วย บางครั้งก็เหน็ดเหนื่อยกับความรู้สึกนี้เป็นอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น เขาไม่สามารถอยู่ร่วมกับเจตนาดีอันบริสุทธิ์ได้ มักคิดว่าตนควรได้รับบทลงโทษ ยามเมื่อตัดสินใจอะไรสักอย่าง เพียงเพื่อจะหาสิ่งปลอบประโลมจากความเจ็บปวดเหล่านี้ก็เท่านั้น
ถ้าเปรียบ Kaveh เป็นประติมากรรม ดูจากภายนอกเขานั้นไร้ที่ติ แต่เพียงค้นพบจุดอ่อนที่อยู่ใจกลาง ก็สามารถทำลายเขาลงได้อย่างสมบูรณ์แบบ
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 3
เรื่องราวของตัวละคร 3หลังจากเรียนจบ Kaveh ได้เข้าไปช่วยงานโครงการของเพื่อนร่วมภาควิชาที่มีอาจารย์ที่ปรึกษาคนละคน เขาที่เพิ่งเข้าสังคมทำงาน ได้รับผิดชอบงานออกแบบ โครงการก่อสร้างอันหนักหน่วงกดดันเขาจนแทบหายใจไม่ออก แต่ Kaveh เป็นคนดื้อรั้น จึงมักใช้เวลาและพลังงานทั้งหมดไปกับการทำงาน เป็นเวลาสองปีเต็มที่เขาถูกโครงการต่าง ๆ เรียกใช้งานจนหัวหมุน ทำงานเพื่อคนอื่นแบบไม่รู้วันรู้คืน
หลังจากสะสมประสบการณ์เพียงพอ Kaveh ก็ออกจากโครงการความร่วมมือ เริ่มรับงานในนามของตัวเอง และเริ่มมีลูกค้าที่ชื่นชอบสไตล์งานของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนขอให้เขาออกแบบสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นในอาชีพของเขา ด้วยการทำงานหนัก ทำให้เขาเก็บออมเงินได้จำนวนหนึ่ง แต่ผ่านไปได้ไม่นาน อาชีพการงานของ Kaveh ก็เข้าสู่ช่วงคอขวด ความต้องการของตลาดของจริงนั้น แตกต่างจากการออกแบบในสถาบันอย่างสิ้นเชิง ทั้งต้องมองโลกในความเป็นจริง ต้องก้มหัวให้กับเงินตรา และคำขอของลูกค้าก็ยากกว่าของอาจารย์เป็นล้านเท่า ในขณะเดียวกัน กระแสความนิยมทางวิชาการของ Sumeru ก็ก่อให้เกิดความปั่นป่วนอย่างมากแก่ Kaveh เขาเริ่มตระหนักแล้วว่า อุดมคติและเส้นทางอาชีพของเขานั้นเป็นอย่างที่ใครบางคนพูดเอาไว้ มันไม่ใช่เรื่องที่จะทำสำเร็จได้ง่าย ๆ เลย
กระแสและมุมมองของนักวิชาการ Sumeru ในสถาบัน เกิดการพัฒนาแปรเปลี่ยนอย่างไม่หยุดหย่อน คนบางส่วนก็เต็มใจที่จะวิพากษ์วิจารณ์และตั้งคำถามกับตัวเอง ทั้งนี้ ความก้าวหน้าและการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยทางสังคมก็ช่วยส่งเสริมความคิดเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นสิ่งที่เคยถูกให้คุณค่าในอดีต อาจกลายเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์ในวันข้างหน้าก็ได้ เช่น หนังสือรูปเล่มหรืองานศิลปะ
นอกจากผู้ที่หลงใหลในงานศิลปะจริง ๆ แล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าศิลปินใน Sumeru ต้องทนทุกข์กับอะไรบ้าง หลังจากที่สถาบันให้คุณค่าและขวนขวายทางวิชาการมากยิ่งขึ้น กลุ่มนักวิชาการก็ยิ่งหันเหไปสนับสนุนความรู้วิชาการบริสุทธิ์ กับทักษะที่นำไปใช้ได้จริงมากยิ่งขึ้น รูปแบบการทำงานของปราชญ์ทั้งหกเริ่มสุดโต่งขึ้น และมุมมองที่ว่า "ศิลปะคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์" ก็ค่อย ๆ กลายเป็นกระแสหลัก ศิลปินถูกมองข้าม และหลายสาขาวิชาที่เชื่อมโยงกับศิลปะก็ได้เริ่มลดทอนศิลปะลงเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัว
หลายโครงการของ Kaveh ถูกมองว่าเป็นสายการประกอบมากกว่า การออกแบบที่สวยงามต่าง ๆ ที่เขาเสนอสำหรับโครงการนี้ล้วนถูกปฏิเสธเนื่องจาก "รูปลักษณ์ภายนอกที่ถูกประดับอย่างไร้ประโยชน์" หรือไม่ก็ "โครงการต้องการเฉพาะอาคารที่ใช้งานได้จริงเท่านั้น" เดิมทีเขามุ่งมั่นที่จะสร้างการออกแบบที่ดีสำหรับทุกคน โดยคำนึงถึงทั้งความงามทางศิลปะและคุณค่าที่ใช้งานได้จริง ตอนนี้ศิลปะกลายเป็นเรื่องน่าขัน ผู้คนปฏิเสธความจำเป็นและคุณค่าของศิลปะ แบบนั้นย่อมไม่เหลือพื้นที่ให้ Kaveh ได้คิดออกแบบเลยสักนิด แต่ Kaveh ผู้ซึ่งเชื่อว่าสถาปัตยกรรมเป็นศิลปะ คัดค้านอย่างรุนแรงต่อมุมมองที่ว่าศิลปะคือสิ่งที่ไร้ประโยชน์ แต่อาชีพได้บีบบังคับให้เขาต้องการการสนับสนุนด้านเทคนิคและเงินลงทุน ทำให้เขาไม่สามารถแยกตัวออกจากแวดวงที่เกี่ยวข้องได้ เขาไม่สามารถเผยทัศนคติออกมาอย่างออกนอกหน้า เพราะถ้าเขาทำเช่นนั้น อาจมีการถอนเงินลงทุน และทำให้คนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องเดือดร้อนได้
เมื่อความฝันและอาชีพของเขาไปได้ไม่สวยนัก Kaveh เลยให้วันหยุดยาวกับตัวเอง พอกลับถึงบ้าน เขาก็ได้รับจดหมายที่ส่งมาจาก Fontaine ฉบับหนึ่งโดยไม่ได้คาดคิด เนื้อหาในจดหมายของแม่เขียนไว้ว่า: เธอพบคนที่สามารถฝากชีวิตที่เหลือไว้ได้แล้ว และวางแผนที่จะแต่งงานใหม่ที่ Fontaine เธอบอกครอบครัวที่เหลือเพียงคนเดียวของเธอ ด้วยใจตุ้มต่อมแต่ก็คาดหวังในเวลาเดียวกัน
Kaveh เขียนจดหมายกลับไป เพื่อแสดงความยินดีกับแม่ของเขา และอวยพรให้เธอมีความสุข แถมยังไป Fontaine เพื่อร่วมงานแต่งงานของแม่ด้วยตัวเองอีกต่างหาก พิธีเป็นไปอย่างเรียบง่าย มีผู้เข้าร่วมเพียงไม่กี่คน เมื่อเห็นรอยยิ้มของแม่อีกครั้ง ในตอนแรก Kaveh รู้สึกมีความสุข แต่หลังจากนั้นก็เกิดความรู้สึกสูญเสียขึ้นมา
แม่ทิ้งทรัพย์สินทั้งหมดใน Sumeru ให้กับ Kaveh สามวันต่อมา เขาก็กลับมาที่ Sumeru รับรู้อีกครั้งถึงบ้านที่ว่างเปล่าจนชวนใจหาย ความรู้สึกอ้างว้างที่ประดังประเดเข้ามาในชีวิตเป็นสิ่งเดียวที่เขาสัมผัสได้ตอนที่นอนอยู่บนโซฟา เป็นอย่างที่นักปราชญ์โบราณแต่ละท่านกล่าวไว้จริง ๆ: "ยึดมั่นในการทำสิ่งที่ถูกต้อง แม้ว่าราคาที่ต้องแลกจะแสนสาหัสแค่ไหนก็ตาม"
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
เรื่องราวของตัวละคร 4ยิ่งเขาทำงานในอุตสาหกรรมก่อสร้างนานเท่าไหร่ Kaveh ก็ยิ่งไม่พอใจกับสถานะที่เป็นอยู่ของสังคมมากขึ้นเท่านั้น ในเวลานี้จู่ ๆ เขาได้พบกับจุดเปลี่ยน: นักธุรกิจผู้มั่งคั่งอย่างนายท่าน Sangemah Bay ได้มาพบเขา และขอให้เขาออกแบบคฤหาสน์ส่วนตัวให้
นายท่าน Sangemah Bay เป็นที่รู้จักกันดีบนท้องถนน แต่จนกระทั่งได้พบเจอกัน Kaveh ถึงรู้ว่านายท่านคนนี้มีชื่อว่า Dori เธอทั้งร่ำรวยและมีอำนาจ ความต้องการของเธอเกี่ยวกับบ้านนั้นมีเพียงสองข้อก็คือ: ใหญ่และหรูหรา Kaveh ถามคำถามเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางการออกแบบ และความต้องการด้านรายละเอียดต่าง ๆ แต่ Dori ไม่สนใจนัก ในบรรดาลูกค้าของ Kaveh ทั้งหมด Dori เป็นคนที่แปลกที่สุด เธอทำธุรกิจ แต่กลับไม่สนใจว่านักวิชาการจะคิดยังไง เธอต้องการสร้างคฤหาสน์ในสถานที่เงียบสงบ บอกแค่ว่าเป็นความต้องการทางธุรกิจ ทั้งยังแนะนำ Kaveh ว่าอย่าถามให้มันเยอะ สนใจแค่การออกแบบคฤหาสน์ให้คนรู้สึกประทับใจก็พอ ส่วนเรื่องศิลปะ Dori ไม่ได้สนใจ แต่ก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด
Kaveh ตระหนักได้ในทันทีว่า งานตรงหน้านี้หาได้ยากเพียงใด คฤหาสน์ที่ไม่จำกัดการออกแบบ นั่นหมายความว่า เขาสามารถออกแบบให้ออกมาเป็นแบบไหนก็ได้ตามที่เขาต้องการ ผู้ว่าจ้างออกเงิน ผู้รับจ้างลงแรง นี่ต่างหากสิ่งที่ธุรกิจควรเป็น ไม่ใช่การถูกจำกัดการออกแบบด้วยกระแสทางวิชาการจนสลับลำดับความสำคัญผิดไปหมด ด้วยความกระตือรือร้นจนคึกสุด ๆ ทำให้ Kaveh ออกแบบแปลนเสร็จภายในชั่วข้ามคืน และเสนอ Dori ในฐานะผู้รับจ้างว่าควรทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ...สำหรับนักธุรกิจที่ร่ำรวยแล้ว แค่อาศัยอยู่ในภูเขามันไม่เพียงพอหรอก หากคุณต้องการให้คฤหาสน์หลังนี้คงอยู่ตลอดไป ก็ควรจะสร้างให้มันเป็นตำนาน และสวยงามกว่านี้! สวนเป็นส่วนเสริมที่ขาดไม่ได้ และการเลือกดอกไม้ในสวนก็ควรต้องพิถีพิถันมาก ๆ เช่นกัน ควรเชิญนักพฤกษศาสตร์มืออาชีพมาออกความเห็น แนวคิดต้องกล้าหาญ แผนต้องมั่นคง ตัวบ้านเองก็ต้องให้ความสำคัญกับการใช้งานจริงมากขึ้น โดยยังต้องคงอยู่บนพื้นฐานของความหรูหรา และไม่ลืมเพิ่มคลังสินค้าและห้องพักผ่อนที่นายท่านต้องการ สำหรับตำแหน่งที่ตั้ง... หน้าผาบนภูเขาด้านทิศเหนือนั้นทำเลดีมาก ทุกวันยามเช้าเมื่อนายท่าน Sangemah Bay ตื่นนอน และเปิดหน้าต่างออกไป ก็จะเห็นภูเขาและสายน้ำไหลที่สวยที่สุดเป็นอันดับแรก
แม้ Dori จะบอกว่า ไม่เอาที่ตั้งติดหน้าผา แต่จิตวิญญาณของสถาปนิก และความปรารถนาทางศิลปะของ Kaveh ยังคงบังคับให้เขาพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อเกลี้ยกล่อมลูกค้า งานก่อสร้างเริ่มต้นอย่างยิ่งใหญ่ กินเวลาทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูแลของ Kaveh
แต่อุดมคตินั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำสำเร็จ ตอนที่ Kaveh เลือกสถานที่ เขาก็เคยพิจารณาถึงปัจจัยรอบด้านต่าง ๆ แล้ว แต่ไม่เคยคาดคิดว่าอัตราการขยับขยายของแดนมรณะจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก เมื่องานคืบหน้าไปได้ถึง 70% ในคืนที่เงียบงันคืนหนึ่ง แดนมรณะก็เกิดขึ้นมาอย่างเงียบสงัด ทำลายโครงสร้างที่สร้างเสร็จแล้วทั้งหมด ซากปรักหักพังบนพื้นกระแทกแสกหน้าของ Kaveh ราวกับสายฟ้าฟาด พอ Dori ทราบข่าวก็โกรธจัด และสั่งให้ Kaveh ถอนตัวออกจากโครงการ แม้ว่าเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าจะมาถึงและจัดการกับแดนมรณะอย่างรวดเร็ว แต่อาคารที่พังเสียหายก็ไม่สามารถซ่อมแซมได้อีกต่อไป
Kaveh รู้ดียิ่งกว่าใครว่าโอกาสแบบนี้หาได้ยากแค่ไหน เขาร้องขอ Dori อย่างยากเย็น เพื่อให้เขาอยู่สร้างวัง Alcazarzaray ต่อให้เสร็จ Dori ชี้ประเด็นสำคัญของปัญหาให้เห็นอย่างชัดเจน: คนที่ร้องขอให้เปลี่ยนสถานที่ใหม่ก็คือ Kaveh ตอนนี้บ้านเสียหาย เงินที่ลงทุนไปก็สูญเปล่า แม้ว่าเธอจะไม่เอาความ แต่โครงการจะดำเนินต่อไปได้อย่างไร ถ้าสร้างใหม่ แล้วใครจะรับผิดชอบในส่วนที่เสียหายไปล่ะ?
Kaveh นั่งคิดอยู่บนเศษซากปรักหักพังอยู่ทั้งคืน เขายังมีเงินเก็บและบ้านที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้ มันเคยเป็น 'บ้าน' ของเขา แต่ตอนนี้มันเป็นเพียงสิ่งปลูกสร้างที่ว่างเปล่าก็เท่านั้น แล้ว 'บ้าน' ควรเป็นยังไง? เขาทำงานด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม รู้ซึ้งดีถึงความแตกต่างยิ่งกว่าใคร หลังสูญเสียสมาชิกในครอบครัวไป มันก็เป็นได้เพียงสิ่งปลูกสร้างเท่านั้น ไม่สามารถถือเป็น 'บ้าน' ที่แท้จริงได้
หลังจากที่ฟ้าสาง Kaveh ก็กลับไปที่ Sumeru เพื่อขายบ้านของเขา ก่อนนำเงินที่ได้จากการขายบ้านพร้อมกับเงินออมของเขา และเงินค่าธรรมเนียมการออกแบบทั้งหมดที่ Dori จ่ายให้ มาลงทุนในการทำโครงการก่อสร้าง เพียงพอสำหรับก้อนทุน 70% แรก ส่วนที่เหลือ Dori จะเป็นผู้จ่ายส่วนต่างให้
ในที่สุดวัง Alcazarzaray ก็สร้างเสร็จในวันที่แดดสดใส Kaveh ทุ่มทั้งหมดที่มี เพื่อสร้างวังในตำนานที่ไม่ใช่ของตัวเอง ในตอนท้ายของโครงการ เขาไม่ได้เงินสัก Mora แถมเนื่องจากมีการใช้จ่ายเกินจำนวนเล็กน้อยในโครงการ เขาจึงกลายเป็นลูกหนี้รายใหญ่ของลูกค้าอีกต่างหาก ภายนอก Kaveh อาจดูจะประท้วงอย่างหนักแน่น แต่ภายในใจลึก ๆ นั้น เขาไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่าตัวเองติดหนี้ได้ หัวใจของเขาถูกครอบงำด้วยความรู้สึกผิดอีกครั้ง และนายท่าน Sangemah Bay ก็เป็นนักธุรกิจที่ชาญฉลาดเช่นกัน เธอสามารถมองออกในทันทีว่า Kaveh ไม่ได้ทำไปเพื่อลูกค้า แต่เขากำลังจ่ายค่าเสียหายสนองอุดมการณ์ของตัวเองต่างหาก
ในเมื่อมีคนยืนหยัดจะเดิมพันโชคลาภทั้งหมดกับอุดมการณ์ แล้วนักธุรกิจจะหยุดเขาไปเพื่ออะไร? ท้ายที่สุดแล้ว สถาปัตยกรรมเป็นเพียงธุรกิจ อุดมคติเท่านั้นที่ประเมินมูลค่าไม่ได้ สำหรับ Kaveh ที่ไม่มีบ้านให้อยู่อาศัยหลังจากนั้น นั่นก็ถือเป็นอีกเรื่องหนึ่งแล้ว
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 5
เรื่องราวของตัวละคร 5หลังจากล้มละลาย Kaveh ก็รู้สึกหดหู่ใจอยู่พักหนึ่ง แต่วัง Alcazarzaray ก็ได้เติมเต็มช่องว่างในหัวใจของเขาที่ถูกเรื่องราวต่าง ๆ ปกคลุมอยู่ ทั้งมันยังพิสูจน์ให้เขาเห็นอีกครั้งว่า: การจะบรรลุอุดมการณ์นั้น ไม่ว่าเสียอะไรไปเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ นอกจากจะหาทิศทางไปของตัวเองไม่เจอแล้ว ยังติดอยู่ในโลกที่หากไม่มีเงินก็ยากที่จะทำการใดด้วย เขาคุ้นเคยกับการที่ต้องฝืนเข้มแข็งตั้งแต่ยังเด็ก เพราะงั้น Kaveh จึงไม่อยากให้เพื่อนร่วมสถาบันรู้เรื่องที่เขาล้มละลาย จนเหลือแค่เศษเงินเล็กน้อยเท่านั้น ทำได้ก็เพียงแค่ไปที่ร้านเหล้า และใช้เหล้าไม่กี่ขวดในการพูดคุยดื่มย้อมใจ หลังเหล้าลงท้องไปทั้งขวด เขาก็เมามายหลับไปกับโต๊ะ และเมื่อตื่นขึ้นอีกที ก็พบว่าตัวเองยังอยู่ที่เดิม
เจ้าของร้านเหล้าอย่าง Lambad ใจดีเตรียมที่นั่งและเหล้าฟรีส่วนหนึ่ง เพื่อเป็นการขอบคุณ Kaveh ที่ได้ทำการออกแบบ และจัดผังที่นั่งบนชั้นสองของร้านเหล้าให้เขาใหม่ บางครั้งตอนเจอเพื่อนเก่าร่วมสถาบันในร้าน Kaveh ก็จะแสร้งทำเป็นว่าเขามาดื่มที่นี่ เพื่อหาแรงบันดาลใจเท่านั้น เขาใช้ชีวิตอยู่ที่ร้านเหล้าแบบนี้ไปกว่าครึ่งเดือน และระหว่างนั้น เขาก็ได้พบกับเพื่อนคนหนึ่ง ที่ไม่ได้เรียกว่าเพื่อนมานานแสนนานคนนั้นเข้า
เมื่อพูดถึงเพื่อนเก่าของ Kaveh เป็นไปไม่ได้เลย ที่จะไม่พูดถึงเสมียนคนปัจจุบันของสถาบันอย่าง Alhaitham จากภาควิชาสัญศาสตร์ ตอนสมัยเรียน Alhaitham เข้าเรียนในสถาบันช้ากว่าเพื่อนรุ่นเดียวกัน แต่ผลการเรียนของเขากลับโดดเด่นกว่าใคร ผู้คนรู้เพียงว่ามีนักเรียนคนหนึ่งที่ได้คะแนนสูงในการสอบ แต่กลับไม่รู้ว่าเด็กคนนั้นคือใคร หรือมักจะปรากฏตัวที่ไหน แถมเมื่อเอ่ยถึงบุคคลนี้ แม้แต่นักวิชาการอาวุโสในภาควิชาเทคโนโลยียังต้องส่ายหัว และเรียกเขาว่า อัจฉริยะที่ฉลาดเกินไปจนเข้าถึงได้ยาก
ในปีนั้น Kaveh เพิ่งประสบกับเรื่องที่แม่จากเมืองไป และต้องใช้ชีวิตอยู่ในความโดดเดี่ยวเพียงลำพัง เขาพบกับรุ่นน้องคนนี้ในห้องสมุดโดยบังเอิญ ก็เลยชวนรุ่นน้องคนนั้นคุยด้วยความอยากรู้อยากเห็น เพราะแบบนี้ เขาเลยรู้จักกับอัจฉริยะจากภาควิชาสัญศาสตร์อย่าง Alhaitham แต่แล้วกาลเวลาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า การคบเพื่อนไม่สามารถคิดเอาเองฝ่ายเดียวได้ ในไม่ช้า Kaveh ก็พบว่าแม้ Alhaitham ที่อายุน้อยกว่าตัวเอง จะทั้งมีพรสวรรค์และสติปัญญาที่โดดเด่นมาก ทว่าตั้งแต่บุคลิกไปจนถึงความประพฤติ และแนวทางทางวิชาการไปจนถึงอุดมคตินั้น กลับตรงกันข้ามกับเขาโดยสิ้นเชิง
ชีวิตในรั้วสถาบันได้ทิ้งความทรงจำมากมายไว้ให้ Kaveh รวมถึงความทรงจำที่ไม่น่าจดจำที่สุดอย่างการทำหัวข้อวิจัยร่วมกัน พวกเขายอมรับในความสามารถของกันและกัน พร้อมทั้งตัดสินใจทำโครงการวิจัย เพื่อศึกษาสถาปัตยกรรมโบราณ อักษรรูนโบราณ และภาษาศาสตร์ ซึ่งตัว Kaveh เป็นคนเสนอให้ Alhaitham เป็นผู้รับผิดชอบยื่นเรื่องโครงการ ในช่วงแรก ยังมีนักเรียนคนอื่น ๆ เข้าร่วมด้วย แต่เมื่อดำเนินไป คนอื่นก็เริ่มตามไม่ทัน นั่นเป็นครั้งแรกที่ Kaveh ตระหนักถึงความโหดร้ายที่เห็นได้ชัดจากความห่างชั้นด้านสติปัญญา สถาบันผูกทรัพยากรทางวิชาการไว้กับพรสวรรค์ไว้อย่างสุดขั้ว ผู้คนเริ่มตระหนักได้ถึงเรื่องหนึ่ง หากใช้คำพูดของ Alhaitham ก็เป็น: ขีดจำกัดสูงสุดกำหนดจากความสามารถ และขีดจำกัดต่ำสุดกำหนดจากความบากบั่นมุมานะ สุดท้ายคนธรรมดาและอัจฉริยะ ก็จะถูกแยกออกจากกันโดยปัจจัยด้านความเป็นจริง ไม่จำเป็นต้องฝืนตัวให้เข้าพวกกับกลุ่มที่ไม่เหมาะสมกับตัวเองหรอก แต่ตอนนั้น Kaveh ยังคงยืนหยัดคิดว่า เรื่องพวกนี้เป็นเพียงแค่อุปสรรคในระหว่างกระบวนการทำงาน มากกว่าจะเป็นผลลัพธ์ และปัญญาควรเป็นสิ่งที่คนหลายคนควรได้ขุดค้นไปด้วยกัน เพื่อไม่ให้นักเรียนคนอื่นถอนตัวออกจากโครงการ Kaveh จึงได้ใช้ทั้งเวลา และสมอง เพื่อทำงานแทนในส่วนของนักเรียนคนอื่น เอาภาระหนักอึ้งทั้งหมดมาแบกไว้เอง ซึ่ง Alhaitham ก็ยังคงมีความคิดเห็นที่ตรงกันข้ามกับ Kaveh เสมอ เขาคิดว่าสิ่งที่ Kaveh ทำนั้นยึดติดกับอุดมการณ์จนโลกสวยเกินไป การทำงานด้านวิชาการไม่ใช่งานการกุศล การให้ความช่วยเหลือเพียงชั่วครู่ไม่สามารถเปลี่ยนความแปลงความเป็นจริงได้ ซึ่งสิ่งนี้จึงเป็นบ่อเกิดความขัดแย้งระหว่างคนทั้งคู่
จนสุดท้าย ในโครงการก็เหลือแค่ Alhaitham และ Kaveh เท่านั้น ความขัดแย้งสะสมมาเรื่อย ๆ จนในที่สุดก็ระเบิดออก Kaveh ยืนกรานว่า Alhaitham เป็นพวกอัตตนิยมที่เห็นแก่ตัวมากเกินไป เป็นคนที่สามารถยื่นมือเข้าช่วยเหลือคนอื่น เพื่อให้คนอื่นชื่นชอบตัวเองได้มากขึ้นแท้ ๆ ส่วน Alhaitham ก็ชี้ว่า อุดมคติของ Kaveh นั้นมันเพ้อเจ้อ ไม่อยู่กับความเป็นจริง สุดท้ายสักวันหนึ่งมันจะกลายมาเป็นภาระในชีวิต และต้นเหตุก็มาจากความรู้สึกผิดในใจของ Kaveh ที่เขาหลีกหนีไปไม่ได้นั่นเอง พอพูดถึงตรงนี้ สิ่งที่ Kaveh รับรู้ได้ชัดเจนสุด คือคำพูดที่แทงใจดำจากเพื่อนที่ดีที่สุดของตัวเอง Alhaitham เปิดเผยความจริงที่ Kaveh ไม่กล้าจะเผชิญหน้ามาโดยตลอด ซึ่งมันเป็นครั้งแรกที่เขาตระหนักได้ถึงความเจ็บปวดที่ถูกทิ่มแทงด้วยความจริง มันทำให้เขาประกาศกร้าวว่า รู้สึกเสียใจที่ได้เป็นเพื่อนกับคนที่ฉลาดจนเกินไปอย่างอีกฝ่าย
ทั้งสองแยกทางกันด้วยเหตุนี้ Alhaitham ขีดฆ่าชื่อเขาออกจากวิทยานิพนธ์นั้น ในขณะที่ Kaveh ฉีกต้นฉบับวิทยานิพนธ์ในส่วนของตัวเองเป็นชิ้น ๆ อย่างเดือดดาล แต่เพียงไม่นานก็เก็บมันมาแปะติดกลับคืนด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง เขาตระหนักได้ว่า เขาไม่สามารถเปลี่ยนเพื่อนของเขาได้ และอีกฝ่ายก็ไม่สามารถเปลี่ยนเขาได้ด้วยเช่นกัน
ในเวลาต่อมา ทั้งคู่มักเกิดการปะทะขึ้นหลายต่อหลายครั้งบนวารสารทางวิชาการ โดยการหักล้างมุมมองของกันและกันเสมอ เพราะก่อนหน้านี้ โครงการวิจัยหัวข้อ [การถอดรหัสแปลความจากอักษรรูนโบราณ และการออกแบบสถาปัตยกรรมในโบราณสถานของอารยธรรมยุคราชา Deshret] มีความคืบหน้าเป็นอย่างมาก ความสำเร็จทางภาษาศาสตร์ของโครงการ ได้เติมเต็มตรรกะทางไวยากรณ์ที่ขาดหายไปในอักขระโบราณ และภาษาชนกลุ่มน้อยบางภาษา ทำให้สามารถตีความหนังสือโบราณที่สำคัญหลายเล่มได้สำเร็จ และความสำเร็จทางสถาปัตยกรรม ยังสามารถนำมาใช้ปรับโครงสร้างรับน้ำหนักของบ้านในภูมิประเทศพิเศษบางแห่งของ Sumeru ซึ่งทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในพื้นที่ท้องถิ่นทุรกันดารดีขึ้นอย่างมาก เพื่อเป็นรางวัล ทางสถาบันจึงได้จัดสรรพื้นที่วิจัยให้เป็นพิเศษ แต่น่าเสียดายที่ขาดผู้มีความสามารถ นักวิจัยหลักมีความคิดไม่ตรงกัน... งานวิจัยเลยต้องยุติลงในท้ายที่สุด
โครงการที่ล้มเหลวได้กลายเป็นความทรงจำในอดีต ที่ลบล้างไม่ได้ของ Kaveh ในอนาคตอีกหลายปีต่อมา เขาได้พบกับความผิดหวังกับความเป็นจริงครั้งแล้วครั้งเล่า ในที่สุด Kaveh ก็ยอมรับว่า การดึงดันไม่ได้ผลดีเสมอไป จนกระทั่งวันที่เขาไม่เหลืออะไรเลย ถึงได้เข้าใจความหมายในคำพูดอันลึกซึ้งของอดีตเพื่อนคนนั้น หากมนุษย์หวังลม ๆ แล้ง ๆ ว่าจะปีนป่ายไปยังสวนสวรรค์ ก็คงยากจะหลีกเลี่ยงที่จะเหยียบบันไดที่ว่างเปล่า และร่วงหล่นสู่ความตาย ในฐานะอัจฉริยะ Kaveh โหยหาการอยู่เป็นกลุ่ม จิตใต้สำนึกกลัวว่าจะถูกกีดกันออกไป ซึ่งนั่นคือความแตกต่างระหว่างเขากับ Alhaitham
กลับมายังโต๊ะในร้านเหล้า เป็นเวลาหลายปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เขาประหลาดใจกับการที่เห็น Alhaitham ปรากฏตัวเพราะบังเอิญมาซื้อเหล้า Alhaitham มองแวบเดียวก็รู้ทันทีว่าสถานการณ์ปัจจุบันของ Kaveh ย่ำแย่ขนาดไหน Kaveh ที่ชีวิตตกอยู่ในความกดดันมาอย่างยาวนาน ได้ระบายปัญหาทั้งหมดของเขาออกไป ยังไงซะ กับอดีตเพื่อนคนนี้ก็ไม่จำเป็นต้องซ่อนปัญหาของเขาอยู่แล้ว เขาบ่นเกี่ยวกับหลายสิ่งหลายอย่าง จนกระทั่งเดินออกจากร้านเหล้าในตอนดึก และเห็นบ้านที่ตนเคยพักอาศัยในที่ไกลออกไป ถึงได้เงียบปากลง กลับกัน หลังจากที่ Alhaitham ฟังคำพูดล้อเล่นของ Kaveh แล้ว เจ้าตัวก็ได้ถามคำถามที่ยากจะตอบ ราวกับกำลังมอง Kaveh จนทะลุปรุโปร่งอีกครั้ง: อุดมการณ์ของนายเป็นจริงรึยัง?
สิ่งเดียวที่ทำให้นักวิชาการยอมรับความผิดพลาดคือความจริง Kaveh ไม่รู้ว่าอะไรคือความจริง เขาใฝ่ฝันถึงห้วงฝันอันงดงามที่ไม่จำเป็นต้องวิ่งหนีอีกต่อไป ถึงแม้ราคาที่ต้องแลกนั้นจะเป็นตัวเองก็ตาม เขายังคงเชื่อมั่นว่าอุดมคตินั้นไม่ผิด แต่วิธีที่เขานำไปใช้นั้นผิด
มนุษย์เราไม่ควรละทิ้งการทำความดี แม้จะเพื่อเป็นการเติมเต็มอะไรบางอย่างก็ตาม แต่ผลลัพธ์นั้น ย่อมมีความหมายสำหรับใครบางคน ถึงจะไปไม่ถึงดินแดนแห่งอุดมคติที่วาดฝันไว้ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกในอุดมคติมันช่างดึงดูดใจคน
ส่วนความเป็นจริงที่ดูเหมือนภาพหลอน อย่างเช่น การที่คนไร้บ้านเช่นเขา ได้จับพลัดจับผลูไปยืมอาศัยบ้านของเพื่อนเก่า โดยที่อสังหาริมทรัพย์ภายใต้ชื่อของเสมียนนี้ เป็นรางวัลที่สถาบันให้มาเพราะการวิจัยครั้งนั้น หากไม่ใช่ว่าตอนนั้น Kaveh ปฏิเสธบอกไม่เอา ทรัพย์สินทางวิชาการที่เกินความจำเป็น ก็คงไม่ถูกเปลี่ยนเป็นที่อยู่อาศัยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย; อย่างเช่น Alhaitham ไม่เคยทำความดีโดยไม่มีเงื่อนไข Kaveh ที่รู้เรื่องนี้ดีรู้สึกร้อนรนมาก เพราะฉะนั้นจึงเสนอตัวช่วยงานบ้านและทำธุระต่าง ๆ ให้... สำหรับคนที่อยู่ในจุดที่ตกต่ำ ก็พูดได้ว่าเป็นเรื่องยุ่งยากน่ารำคาญ แต่ก็พิสูจน์ได้เช่นกัน: เพื่อนที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้คืออดีตที่สั่นคลอนได้ยากสุดในชีวิต เหตุผลและอารมณ์, ภาษาและสถาปัตยกรรม, ความรู้และความรู้สึก... สิ่งที่ไม่เคยหลอมรวมเข้ากันได้เหล่านี้ เป็นดั่งกระจกเงาสองด้าน และเป็นดั่งโลกทั้งใบ
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6
สมุดวาดภาพเล่มเก่าสมุดวาดภาพปกหนังอันเก่าเล่มหนา เนื้อหาภายในไม่ได้มีเพียงภาพสเก็ตช์วาดเล่นเท่านั้น แต่ยังมีกระดาษที่ถูกตัดมาแปะในปริมาณมากด้วย เจ้าของน่าจะใช้มันเป็นสมุดบันทึกเสียมากกว่า
หน้าที่ 1: "พื้นฐานการวาดสถาปัตยกรรม" ผู้เขียน: Faranak คำที่ถูกเขียนเอาไว้: หนังสือของแม่ ตอนนี้พอกลับมาดูอีกที เหมือนสีที่พิมพ์บนหน้าปกจะเพี้ยนไปหน่อยนะ?
หน้าที่ 15: ภาพร่างลวก ๆ ที่ถูกซ่อนเอาไว้ มันเป็นภาพของร่างคนที่จมลงไปในทรายดูด สาเหตุที่บอกว่าถูกซ่อนไว้ นั่นเป็นเพราะสองหน้าก่อนหลังถูกใช้กาวแปะติดกันเอาไว้
คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "พ่อ... ผมขอโทษนะ ผมไม่รู้ว่าควรเขียนอะไรถึงจะ... ขอโทษนะ ยกโทษให้ผมด้วย"
หน้าที่ 26: ใบยื่นเรื่องขอวิจัย คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "เป็นการเริ่มต้นที่ดี คงหาผู้ร่วมงานที่ฉลาดแบบนี้ไม่ได้ง่าย ๆ หรอกนะ"
หน้าที่ 31: โน้ตบันทึกด้านวิชาการและภาพสิ่งปลูกสร้าง คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "พวกเราคิดเห็นตรงกันหมดเลย สมบูรณ์แบบมาก" ประโยคนี้ถูกขีดฆ่าทิ้ง
"ความคิดของพวกเราอยู่กันคนละขั้ว การทะเลาะก่อให้เกิดข้อถกเถียง และปรัชญาที่เพิ่มขึ้นไม่หยุดหย่อน" ประโยคนี้ถูกทิ้งเอาไว้
หน้าที่ 42: หน้าปกวิทยานิพนธ์ที่ถูกฉีกเป็นส่วน ๆ และถูกนำกลับมาแปะติดกันอีกครั้ง ไม่มีประโยคใดถูกเขียนเอาไว้
หน้าที่ 47: บทความจากนิตยสารตีพิมพ์ของสถาบัน ไม่ทราบชื่อของบทความ เนื้อหาที่ถูกนำมาแปะเอาไว้มีดังนี้:
"ชัดเจนว่า ผู้เห็นแก่ตัวคงไม่มีทางเข้าใจจุดหมายแห่งสติปัญญา! ถึงทุกคนจะอ้างว่าตนมีตำแหน่งจุดยืนในโถงวิชาการอันใหญ่โตนี่ก็เถอะ แต่สุดท้ายพวกเราก็ควรจะเข้าใจถึงจุดที่ว่า มนุษย์ต่างหากที่ก่อเกิดเป็นโลกใบนี้ หาใช่ความรู้ไม่ หากไร้ซึ่งภาชนะรองรับ ความรู้ก็จะไม่มีที่ให้สถิต คุณค่าโดยสากลย่อมมีคุณค่าจึงถูกยอมรับโดยสากล การปฏิเสธความคิดเห็นส่วนมากไม่ได้ทำให้มุมมองคนส่วนน้อยผงาดขึ้น เช่นเดียวกันกับเรื่องทางสุนทรียศาสตร์ ความสวยงามเป็นแนวคิดปัจเจกในใจแต่ละบุคคล มันไม่ได้สูญเสียคุณค่าไป เพียงเพราะคนบางส่วนเข้าไม่ถึงแต่อย่างใด"
"การมองว่าตนเป็นภาชนะรองรับอันยิ่งใหญ่ นั่นคือมุมมองคับแคบของผู้เป็นนักวิชาการ ต้องรู้ไว้ด้วยว่า สัจธรรมไม่ได้มีอยู่เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง หลักการของโลกนั้นอยู่ร่วมกับธรรมชาติ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ โดยขึ้นกับว่าจะถูกอ่านเจอหรือไม่ การเชื่อมั่นในสิ่งนอกกายเกินควรเปรียบเสมือนการเปิดเผยตนเอง เป็นการแสดงออกถึงความไม่มั่นใจในตัวเอง นอกจากนี้ หากคนคนหนึ่งมั่นอกมั่นใจในมุมมองของตนมากพอ คนผู้นั้นก็จะไม่พูดสรรพนามแทนตัวเองด้วยพหูพจน์ (เช่น พวกเรา) อยู่ตลอดเวลา ฉันกล้ายืนยันเลยว่า แค่ตัวฉันเองก็เพียงพอที่จะพิสูจน์แนวคิดนี้แล้ว"
หน้าที่ 56: ภาพสเก็ตช์วิวของสถาบัน คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "คงไม่กลับมาทำงานที่นี่หรอก แต่หวังว่าสักวันหนึ่ง ฉันจะสามารถกลับมาที่นี่ในฐานะผู้ให้การบรรยายได้บ้างนะ"
ต่อจากนี้ยี่สิบหน้า: ตารางทำงานอันแน่นเอี๊ยด และโน้ตที่ถูกจดเอาไว้พร้อมภาพประกอบ ลายมือเริ่มจากสวยประณีตจนกลายเป็นลวกจนอ่านไม่ออก เห็นได้เลยว่ามีเวลาน้อยลงเรื่อย ๆ เจ้าของสมุดคงจะงานยุ่งน่าดู
หน้าที่ 85: ภาพต้นฉบับอันสวยงดงามที่ไม่น่าจะเรียกว่าเป็นภาพร่างด้วยซ้ำ มันเป็นภาพวาดย่อส่วนของสถาปัตยกรรมอันยิ่งใหญ่บางแห่ง คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "สามารถทำออกมาได้จริง แต่ต้องใช้ทรัพยากรเยอะมาก ต้องคำนึงถึงรายละเอียดด้วย"
หน้าที่ 91: ภาพสเก็ตช์วาดเล่นยุ่งเหยิง ไม่มีประโยคใดถูกเขียนเอาไว้
หน้าที่ 92: ใบยืนยันการโอนกรรมสิทธิ์อสังหาริมทรัพย์ใบหนึ่ง คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "อาจจะวู่วามไปหน่อย แต่พอคิดได้ว่า นี่เป็นโอกาสที่ทำให้ฉันรู้สึกเปี่ยมไปด้วยความหวังแล้วละก็ คงจะปฏิเสธไม่ได้ละนะ ขอให้ทุกอย่างราบรื่นดีด้วยเถอะ"
หน้าที่ 101: ภาพวาดเล่นสองสามรูป คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "จบเห่แล้ว! วาดไม่ออกเลย พรุ่งนี้ไม่วาดแล้ว"
หน้าที่ 107: ภาพวาดการออกแบบภายใน สถานที่ดูเหมือนจะเป็นชั้นสองของร้านเหล้า Lambad คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "ฉันยังทำอะไรที่ดีกว่านี้ได้มั้ยนะ?"
หน้าที่ 112: สัญญาการเช่าบ้าน คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "จะบอกว่าเป็นเรื่องร้ายก็ไม่ได้ แต่ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ได้เนี่ย?! เจ้าหมอนั่นต้องไม่ได้ให้ฉันอยู่ด้วยแบบไม่มีปี่มีขลุ่ยแน่นอน... แต่ฉันจะทำอะไรให้เขาได้บ้างล่ะ?"
หน้าที่ 115: ภาพร่างออกแบบกระเป๋าถือ คำที่ถูกเขียนเอาไว้: "Mehrak เป็นศัพท์โบราณคำหนึ่ง ฉันจะใช้มันมาตั้งเป็นชื่อให้กับกระเป๋าถือ มันหมายความว่า 'แสงสว่างเล็กน้อย' เหนือสิ่งอื่นใดแล้ว ฉันก็แค่หวังอยากให้มันเข้าใจคำพูดของฉันก็เท่านั้นเอง"
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 4
วิชั่นKaveh ในวัยเรียนมักจะเดินทางไปทั่วเพื่อหัวข้อวิจัย มีหลายครั้งต่อหลายคราวที่ออกไปสำรวจโบราณสถานต่าง ๆ นานาร่วมกับเพื่อนร่วมภาควิชา ผู้มีส่วนร่วมในสมัยนั้นต่างยังอ่อนเยาว์ จึงยังไร้ความสามารถที่จะมุ่งไปสู่ใจกลางของสุสาน หากแต่พวกเขาก็ยังประสบความสำเร็จไม่น้อยอยู่ดี
กระนั้น การสำรวจโบราณสถานย่อมมีความเสี่ยง ไม่ว่าผู้มีส่วนร่วมจะเชี่ยวชาญอย่างไร ก็มิอาจหลบเลี่ยงภัยอันตรายได้ ในระหว่างการสำรวจครั้งหนึ่ง ทีมนักเรียนได้พบเข้ากับวิกฤตที่ค่อนข้างอันตราย นั่นคือการที่ห้องได้ถล่มลงมา หากไม่มี Kaveh ช่วยผลักนักเรียนภาควิชาเทคโนโลยีอีกสองคนออกจากสุสานอย่างสุดแรงเกิดละก็ น่ากลัวว่าชีวิตของพวกเขาคงจะจบลงในนั้น สุดท้ายแม้ว่าตัว Kaveh จะรอดพ้นจากอันตรายด้วยสภาพซอมซ่อพร้อมบาดแผลเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่อาจห้ามความคิดที่เปลี่ยนแปลงไปของเพื่อนร่วมภาควิชาสักนิด Kaveh นึกว่าตัวเองช่วยให้คนอื่นประสบความสำเร็จ ทว่าคนส่วนมากกลับเกิดความสงสัยในสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน และความห่างชั้นของความสามารถ จนสุดท้ายก็เลือกที่จะออกจากโครงการวิจัยกันหมด
Kaveh รู้ถึงการมีอยู่ของ "วิชั่น" ตอนแรกเขาก็นึกว่าหลักฐานของความมหัศจรรย์พวกนั้น จะมาเยือนในวินาทีอันตราย แต่ยามที่พบเจอวินาทีความเป็นความตายระหว่างงานสำรวจนั้น เขากลับไม่ได้รับการจ้องมองจากเทพเจ้าเสียอย่างนั้น แถมยังต้องทุ่มสุดแรงเพื่อช่วยคนพวกนั้นออกไปอีกต่างหาก
หลายปีต่อมา Kaveh เรียนจบแล้วออกจากสถาบัน เริ่มทุ่มเทให้กับหน้าที่การงาน เขาเลิกนึกถึงเรื่องเกี่ยวกับวิชั่นไปนานแล้ว และไม่ได้ครุ่นคิดถึงเรื่องที่วัตถุชนิดนี้จะตกอยู่กับคนประเภทไหนด้วย ได้ยินมาว่าคนคนหนึ่งจะถูกจ้องมองก็ต่อเมื่อมีความปรารถนา บางทีเขาคงจะไม่ใช่หนึ่งในนั้น
ทุกอย่างหลังจากนั้นราบเรียบประหนึ่งสายน้ำนิ่ง เขาสาละวนยุ่งหัวหมุนอยู่กับการออกแบบ และเหนื่อยล้ากับการที่ศิลปะของตนไม่เป็นที่ยอมรับ ผู้เป็นแม่ก็ได้สร้างครอบครัวใหม่ที่ Fontaine แล้วเรียบร้อย เธอได้หลงเหลือบ้านและทรัพย์สินอย่างอื่นให้กับเขาที่เป็นลูกชาย... ทั้งหมดทั้งมวลราวกับเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ และไม่ควรค่าแก่การพูดถึงเลยสักนิด
จนกระทั่งวันนั้นมาถึง วันที่วัง Alcazarzaray แรกสุดถูกทำลายสิ้นซาก โดยแดนมรณะที่จู่ ๆ ก็ผุดขึ้นโดยไม่ตั้งตัว Kaveh นั่งใคร่ครวญอยู่บนซากปรักหักพังทั้งคืน เขาพลันเกิดความคิดอยากละทิ้งทุกอย่าง และไปไล่ตามความฝันที่อยู่ตรงหน้าอย่างสุดกำลัง เพราะฉะนั้นเขาจึงกลับบ้าน ก่อนจะติดต่อทำเรื่องกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันทีทันใด จะว่าประจวบเหมาะก็คงได้ ช่วงนั้นเกิดการแลกเปลี่ยนซื้อขายค่อนข้างถี่ Kaveh ใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็ขายบ้านออกไปได้ พร้อมรับเงินทุนก้อนหนึ่งที่เขานำไปลงกับงานก่อสร้างในภายหลัง
หลังจัดการเรื่องยิบย่อยทั้งหมดจนเสร็จ Kaveh ก็กลับไปยังบ้านเก่าที่อยู่อาศัยมาหลายปีเป็นครั้งสุดท้าย เขาใช้ขนมปังแบนมาทำวัง Alcazarzaray แบบง่ายก่อนจะวางบนจาน พร้อมราดซอสกับโยเกิร์ตลงไป ประดับตกแต่งออกมาเป็นขนมหวานจานสวย
เมนูนี้ไม่ยากเลยสักนิด Kaveh ในวัยเด็กเรียนรู้วิธีการทำมาจากผู้เป็นพ่อ หลังจากพ่อจากโลกนี้ไป เขาก็ไม่ค่อยทำมันออกมาอีกเลย เพียงแต่วันนี้ก็แค่เกิดอารมณ์ชั่ววูบอยากลิ้มรสที่ห่างหายไปนานก็เท่านั้น
หากกล่าวกันอย่างจริงจังแล้ว นี่ไม่ใช่ของหวานที่ Kaveh ชื่นชอบที่สุด ทว่ายามที่เขาต้องเคาะวังขนมปังแบนที่ประกอบขึ้น ให้แตกเป็นชิ้นส่วนเพื่อรับประทานนั้น ก็ยังรู้สึกขมขื่นในลำคออยู่ดี
ภายในขนมปังแบนที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ มี "วิชั่น" ส่องประกายนอนแน่นิ่งอยู่อย่างเงียบงัน
Kaveh มองมันอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ผ่านมาแล้วกว่าหลายปี ในที่สุดมันก็ตกลงมาอยู่ตรงหน้าสายตาของชายหนุ่ม มันเจิดจรัสราวกับนครมายาบนฟากฟ้า แต่ก็อยู่ใกล้กว่าอุดมคติของเขา
* ปลดล็อกเมื่อความประทับใจถึง Lv. 6

218 responses to “Kaveh”

  1. His interruption resistance is pretty nuts, honestly. I guess my previous onfielders have tended to go flying pretty quickly, but not this guy! I use him in the Dragonspine domain (with Xingqiu, Yaoyao, and Nilou) and he doesn’t flinch once from that Lawachurl. Just facetanks everything and takes it and that abyss mage out in less than 30 seconds.

      
    Expand
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
  2. I didn’t pull a single Kaveh on the Baihzu banner. But oddly enough I got him on the standard banner after his banner ended.
    The rate up is a lie. I even got a Yaoyao on Kaveh’s banner. I hope pulling for Kirara doesn’t turn out the same way.

    Expand
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
  3. The fact that he can facetank bloom makes him pretty much the face of bloom now unless you’re using a 5 star with Nilou, like Nahida or Althy. Nilou, XQ/Yelan, Baizhu/YaoYao, and Kaveh makes for an insane team. If you don’t have Nilou, you can pair him with XQ and Kazuha. I think he needs C6 though. He really shines when you have that.

    Expand
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
  4. Dont get me wrong-will 3 crown him and I think he’s cool but he’s just so bad to play. I cant even say budget alhaitham since he doesn’t even come close to his multipliers. He really doesn’t have any team where he is an actual improvement in it-at least collei is meta for nilou if you can play her well but that wont stop me from playing dripped kaveh with wgs

    Expand
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
  5. C0 Kaveh confirmed to be a better dendro for Nilou teams than the dendro archon, who is now useless. Perverts in crisis mode.

      
    Expand
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    Votes0
    • ONLY for Nilou, my Nahida team without both of em could deals damage more than em, LMAO

      Expand
      Votes0
      Votes0
      Votes0
      Votes0
      Votes0

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton