
![]() | Name | Starcaller’s Watch |
Family | Weapon, Catalyst | |
Rarity | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() | |
Conversion Exp | 300000 | |
Base Attack | 44.34 | |
Substat Type | Elemental Mastery | |
Base Substat | 57.6 | |
Weapon Affix | Offering Unto Wind and Sun | |
Affix Description | ความชำนาญธาตุเพิ่มขึ้น | |
Description | รูปปั้นแกะสลักรูปนกอินทรี เป็นหนึ่งในของศักดิ์สิทธิ์ ที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ของเผ่าจ้าวแห่งลมราตรี | |
Weapon Ascension Materials | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
Table of Content |
Weapon Stats |
Weapon Affix |
Item Story |
Gallery |
Weapon Stats
Lv | Atk | Bonus EM | Materials | Total Materials |
1 | 44.34 | 57.6 | ||
20 | 110.17 | 101.78 | ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() |
20+ | 141.27 | 101.78 | ||
40 | 209.82 | 148.32 | ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
40+ | 240.92 | 148.32 | ||
50 | 275.46 | 171.59 | ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
50+ | 306.66 | 171.59 | ||
60 | 341.46 | 194.86 | ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
60+ | 372.56 | 194.86 | ||
70 | 407.81 | 218.07 | ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
70+ | 438.91 | 218.07 | ||
80 | 474.55 | 241.34 | ![]() ![]() ![]() ![]() | ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
80+ | 505.65 | 241.34 | ||
90 | 541.83 | 264.61 |
Weapon Affix
Lv | Affix Progression | Materials |
1 | ความชำนาญธาตุเพิ่มขึ้น | |
2 | ความชำนาญธาตุเพิ่มขึ้น | ![]() ![]() |
3 | ความชำนาญธาตุเพิ่มขึ้น | ![]() ![]() |
4 | ความชำนาญธาตุเพิ่มขึ้น | ![]() ![]() |
5 | ความชำนาญธาตุเพิ่มขึ้น | ![]() ![]() |
Item Story
ให้ดวงตาของเธอถูกย้อมไปด้วยควันจากการลุกไหม้ เพื่อที่เธอจะได้ไม่หลงใหลไปกับสีสันที่สะท้อนเข้ามาในดวงตา ให้ข้อเท้าของเธอได้รับพรจากคมมีด เพื่อที่เธอจะได้ไม่ทอดทิ้งพวกพ้องที่เธอรัก ตามสัญญาอันสูงส่งและเก่าแก่ ผู้ส่งสารแห่งราตรีจะคัดเลือกเด็ก ที่มีจิตวิญญาณสว่างไสวดุจดวงดาว และสวมมงกุฎขนนกอินทรีให้แก่เธอ เพื่อนำพาผู้คนในยุคโบราณที่สูญเสียรูปลักษณ์ ไปสู่ห้วงนิทราในราตรี ไม่ว่าจะเป็นฝูงมังกรที่จมจ่อมอยู่ในความฝัน หรือเหล่าธรรมิกชนที่ต่อสู้กันอย่างไม่หยุดหย่อน ในดินแดนแห่งความมืด ไม่มีใครสังเกตเห็นแผนการของผู้ที่อ้างตัวว่าเป็นนักปราชญ์ พันธสัญญาได้ถูกจัดทำขึ้นระหว่างผู้คนในหุบเขา และลูกหลานผู้สูงศักดิ์ มันได้ขวางกั้นไฟสงครามที่กระหายเลือดของเหล่านักรบ และทิ้งไว้เพียงความเงียบสงัดอันแสนสงบท่ามกลางหมอกควัน แต่นักรบผู้กล้าหาญที่สุดในหุบเขาลึกนั้น กลับทำได้เพียงเป็นทาสของผู้บูชาดวงดาวเท่านั้น นี่ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของแผนการที่ยิ่งใหญ่ แต่การเสื่อมสลายของผู้ต่ำทรามก็ยังทำให้เขารู้สึกรังเกียจ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็ต้องใช้กลอุบายเล็กน้อย เพื่อยุยงให้เธอต่อต้านมังกร ในนามของความปรารถนาดี เหมือนกับที่นักปราชญ์คิดไว้ การควบคุมจิตใจมนุษย์นั้นเป็นเรื่องง่ายดายดุจพลิกฝ่ามือ เพียงแค่เติมเชื้อไฟลงไปในความทุกข์เล็กน้อย และพูดจาอย่างชาญฉลาดเพื่อสิ่งที่เรียกว่า "ความหวัง" เด็กสาวชาวมนุษย์ที่อ่อนแอราวกับมดปลวก และโง่เขลาราวกับต้นไม้ที่เหี่ยวเฉา ก็เชื่อฟังคำสั่งของเขา อย่างไรเสีย ครั้งหนึ่งเขาเคยนำทางเธอ ผ่านอาณาจักรราตรีที่อันตราย และมองเข้าไปในหมอกควันโบราณนั้น แม้ว่าด้วยความไร้เดียงสาของเธอแล้ว เธอคงไม่น่าจะมองเห็นสิ่งใดยามที่เผชิญหน้ากับควันอันเลือนรางนั้น ต่อไป เพียงแค่ผลักเบา ๆ ก็ทำให้ความฝันที่น่าขันนั้นพังทลายไม่มีชิ้นดีได้แล้วละมั้ง... ตามที่นักปราชญ์คาดไว้ เด็กสาวที่เคยก้มหัวเชื่อฟังคำสั่งของเหล่ามังกร กลับใช้ขลุ่ยและเสียงเพลง เพื่อชี้นำนักเดินทางจากต่างแดนที่เขาไม่เคยพบเห็น ให้เดินฝ่าปราการควันไปได้ และตามแผนการที่สมบูรณ์แบบของเขา เขาได้ส่ง Dinga ข้ารับใช้ผู้เงียบขรึมของเธอออกไปจากหุบเขาลึก จากนั้น ไฟแห่งการพิชิตและการสังหาร ก็ถูกนำไปสู่ดินแดนที่ถูกตัดขาดจากโลกนี้... จนกระทั่งหลายปีต่อมา ผู้กล้า Maghan ได้แทงดาบทองของราชาอสรพิษ เข้าไปในหัวใจของผู้เป็นเจ้านายเก่า นักปราชญ์ที่คิดว่าตนสามารถควบคุมจิตใจมนุษย์ได้ ถึงได้รู้ตัวว่า เมล็ดพันธุ์อัคนีแห่งการทรยศได้ถูกหว่านไว้มานานแล้ว แต่การทรยศนั้น ไม่ได้มุ่งเป้าไปยังฝูงมังกรที่จมดิ่งอยู่ในความฝันอย่างที่เขาคิด แต่มันมาพร้อมกับบทเพลงของ Wayob ที่เพิ่งเกิดใหม่ ณ ห้องโถงลึกที่สุดในอาณาจักรราตรี และในพันปีต่อมา ก็ได้กลายเป็นรากฐานของชนเผ่าที่ชื่อว่า "Mictlan" ม่านเจ็ดชั้นที่มองไม่เห็น ปิดกั้นดินแดนที่ไร้แสงสว่างแห่งอดีตไว้ในควันหมอก ท่ามกลางสายลมราตรี และแสงแดดอันเย็นยะเยือก มดปลวกนั้นได้ขโมยพิธีกรรมลับ ที่แม้แต่นักปราชญ์ก็ไม่เคยหวังว่าจะได้มาครอง "อย่าได้ฝากความหวังไว้กับราตรี อย่าพึ่งพาความเมตตาของนักปราชญ์ และยิ่งไปกว่านั้น อย่าได้หลงเชื่อคำโน้มน้าวของผู้ที่เรียกตนเองว่านักปราชญ์" "แม้จะมีสีของความขี้ขลาด แม้จะถูกย้อมด้วยความอัปลักษณ์และความชั่วร้าย แต่สิ่งที่มนุษย์สามารถพึ่งพาได้ก็มีเพียงตัวเองเท่านั้น" "แต่ถึงอย่างไรมนุษย์ก็อ่อนแอ แม้ว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามแผนที่ข้าวางไว้ แต่ข้าก็ทำได้เพียงรักษาขอบเขตไว้ ให้มั่นคงได้เพียงหนึ่งร้อยปีเท่านั้น" "เพราะเหตุนี้... เธอจึงต้องบอกเล่า และให้ชาวเผ่าทั้งหลายบอกเล่า ถึงเหล่าผู้ทรงเกียรติที่ทั้งกล้าหาญและเรืองนามเหล่านั้น" "ต้องบอกเล่าเรื่องราวใน "ความทรงจำ" ถักทอเป็นม้วนหนังสือที่ทอดยาวไกล และเป็นรากฐานของบ้านที่ถูกเรียกว่า Natlan ในวันข้างหน้า" "นำรูปปั้นนี้ติดตัวไปด้วย Dinga ข้ารับใช้ผู้ซื่อสัตย์ที่สุดของข้า และออกเดินทางไปตามแสงแรกของรุ่งอรุณเถอะ" "ข้าจะคอยเฝ้าดูเธอตลอดไป ผู้กล้าเพียงหนึ่งเดียวของข้า ข้าจะคอยอยู่เคียงข้างเธอเสมอดุจสายใยที่พันผูกไว้" "จนกว่าจิตวิญญาณของเรา จะพันผูกกันชั่วนิรันดร์ในความสงบอันเงียบสงัด ที่แม้แต่ความตายก็ไม่อาจแยกพวกเราออกจากกันได้" |
32 responses to “Starcaller's Watch”
stygian onslaught makes this weapon trash compared to fav
and who cares of crapping onslaught?