Wings of the Forest

Wings of the Forest
Wings of the ForestNameWings of the Forest
FamilyGlider
RarityRaritystrRaritystrRaritystrRaritystr
Item Source (Ingame)ได้รับเมื่อระดับชื่อเสียงประจำเมือง Sumeru ถึงเลเวลที่กำหนด
Descriptionรูปแบบหนึ่งของเครื่องร่อนเวหา ของขวัญที่ได้มาจาก การเป็นที่ยอมรับและยกย่องใน Sumeru

Table of Content
Item Story
Obtained From
Gallery

Item Story

เนื่องจาก Sumeru เคยเป็นดินแดนที่ไม่ค่อยมีความฝัน ทุกคนจึงมีความเชื่อท้องถิ่นว่า: หากเห็นภาพต่าง ๆ ที่ประกอบขึ้นในจิตขณะนอนหลับ สิ่งนั้นจะต้องเป็นการเปิดเผยและการตรัสรู้ของเทพแห่งพฤกษา เบื้องหลังอาจจะมีความจริงลึกลับบางอย่างซ่อนอยู่ หรือบางทีอาจเป็นเพราะตำนานนี้ "Akasha" จึงถือกำเนิดขึ้นมา
อดีตปรมาจารย์ Firnas ซึ่งไม่ใช่ศาสตราจารย์คนปัจจุบันของสถาบัน เขาอ้างว่าตนเองนั้นมีความฝันมากมายและจดบันทึกเก่ง ดังนั้นเขาจึงมีชื่อเสียงในฐานะนักกวีหรือนักช่างฝันมากกว่าในฐานะนักวิชาการและนักประดิษฐ์เสียอีก เพราะชาว Sumeru ไม่ค่อยฝันกัน ถ้าหากเขาสามารถฝันจริง ๆ งั้นเขาอาจจะเป็นผู้ที่ได้รับเลือกให้อยู่ต่อหน้าเทพแห่งพฤกษาในทุกวัน สำหรับคนที่อิจฉาเขาต่างพูดได้แค่ว่า ฝันกลางวันไม่นับเป็นความฝันหรอก

ในตำนานเล่าว่า เขาเคยเห็นเครื่องร่อนเวหาจากดินแดนอันไกลโพ้น หลักการทำงานของมันขัดกับกฎฟิสิกส์โดยสิ้นเชิง หากไม่ใช่เพราะพรของเทพแห่งลมที่กระจายไปทั่วเครื่องร่อนเวหาแต่ละอัน ของสิ่งนี้แม้จะสวมใส่ให้กับนกอินทรี ก็อาจจะทำให้มันตกลงมาจากท้องฟ้าสูงและกระแทกกระดองเต่าที่อยู่ด้านล่างให้แตกได้เลย
ด้วยเหตุนี้ ปรมาจารย์ Firnas... ย้ำอีกครั้งว่าไม่ใช่ศาสตราจารย์ Firnas คนปัจจุบัน... ตัดสินใจสร้างเครื่องร่อนเวหาที่ไม่มีพรของเทพแห่งลม ซึ่งมันจะต้องสามารถโบยบินได้ด้วยความงดงามของมันเองและกฎเกณฑ์ของสรรพสิ่งแน่นอน

ดังนั้นเขาจึงกลับไปทำงานหามรุ่งหามค่ำ จนในที่สุด วันหนึ่งเขาก็ผล็อยหลับไป และตำนานเล่าว่าเขาได้พบกับเทพแห่งพฤกษาในขณะหลับใหลอีกครั้ง
ผู้ปกครองแห่งสิ่งมีชีวิตฟังความทุกข์ของปรมาจารย์ Firnas ก่อนจะหัวเราะและเล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า:

เรื่องราวเกี่ยวกับลมที่แปลงร่างเป็นมนุษย์และหินพูดได้ แล้วก็เอ่อ... ไม้ที่มีธาตุไฟฟ้า ทั้งสามพูดคุยกันถึงองค์ประกอบของโลก แต่ละคนก็ต่างเชื่อว่าตนเป็นหนึ่งธาตุพื้นฐานที่สุด หินบอกว่า "ฉันแบกรับทุกสิ่ง" ทุกคนก็เห็นด้วย ไม้บอกว่า "สมองของมนุษย์มีความคิดนับพันหมื่น ซึ่งทั้งหมดเป็นผลจากไฟฟ้า" ทุกคนรู้สึกว่ามันฝืนชอบกล แต่ก็ยากที่บอกว่าไม่ถูกต้อง พอถึงตาของลม เขาก็เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า:

ในตำนานอีกโลกหนึ่ง สวรรค์มีบุตรแห่งอากาศนับหลายคน พวกเขาทั้งหมดเป็นภูตแห่งลม ภูตตนอื่น ๆ สามารถผ่าผ่านภูเขาและหินก้อนใหญ่ หรือไม่ก็สามารถเรียกพายุหมุนขนาดใหญ่เพื่อเคลื่อนเมฆและน้ำด้วยพลังที่หาที่เปรียบไม่ได้ มีเพียงคนสุดท้องเท่านั้นที่ถูกผู้อื่นดูถูก เพราะพลังลมหายใจแห่งชีวิตของตนนั้นอ่อนแรง เขาจึงซ่อนกายของตนเองไว้ เหล่าดอกไม้ที่ผสมเกสรด้วยสายลมนั้นเจ็บปวด เพราะไม่มีใครผสมเกสรดอกไม้ให้ ดอกแดนดิไลออนที่กล้าหาญที่สุดได้ค้นพบลมหายใจแห่งชีวิต และเพื่อให้กำลังใจแก่เขา ดอกแดนดิไลออนจึงได้เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า:

กาลครั้งหนึ่งมีอาณาจักรอันไกลโพ้น มีราชินีผู้ทรงพลังและงดงามราวกับดวงอาทิตย์ที่สาดส่องอาศัยอยู่ แต่น้องชายของเธอเป็นอัศวินที่ขี้เล่น... (ละเว้น)... สาวใช้ของราชินีต้องการให้กำลังใจเธอ จึงได้เล่าเรื่องหนึ่งให้ฟังว่า:

...

หลังจากคืนนั้น ปรมาจารย์ Firnas ก็ได้ทำเครื่องร่อนเวหาอันหนึ่งขึ้น และขอให้เทพแห่งลมอวยพร แม้ว่าสุดท้ายมันจะมีผลลัพธ์เหมือนกับเครื่องร่อนเวหาที่เคยประดิษฐ์มาก่อนแล้ว แต่ทางสถาบันกลับบอกว่าความคล้ายคลึงกันนี้เป็นเพียงเรื่องบังเอิญเท่านั้น
ตำนานเล่าว่า คำแรกที่ปรมาจารย์พูดหลังจากตื่นขึ้นมาก็คือ "ฉันรู้แล้ว! คำตอบอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง"
ความจริงแล้ว ประโยคแรกของเขาก็คือ "ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันรู้แล้ว! คำตอบอยู่ตรงหน้าฉันนี่เอง พรแห่งเทพก็คือกฎของโลกใบนี้ ได้โปรดหยุดพูดเถอะนะ"

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: ความจริงอันสูงสุดของโลกนั้นน่านับถือ แต่อย่าได้แสวงหากฎฟิสิกส์ในจินตนาการ
ว่าไง เธอจะรับเครื่องร่อนเวหาของปรมาจารย์ Firnas ไว้มั้ย?

Obtained From

Reputation

IconName
ชื่อเสียงประจำเมือง Sumeru
ชื่อเสียงประจำเมือง Sumeru
items per Page
PrevNext

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

TopButton